ทหาร-ตร.สน.บางโพงพางจับกุมนักพนันไฮโลรอบสอง คราวนี้ถูกกักตัวเพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติที่ห้องขังกองปราบฯ 6 วัน หนุ่มพิการใบ้เจอดี วิญญาณอดีตผู้ต้องขังที่เสียชีวิตจากการผูกคอตายในห้องขังหลอน
วันนี้ (4 ก.ย.) ที่กองปราบปราม 12.00 น. พ.ท.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ พล.ม.2 รอ.พร้อมเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารเดินทางมารับตัวนายอาหนี แซ่ตั้ง (เจ้ามือ) น.ส.กัญญา บุญส่ง, นายวิเชียร จงใจจิต, นายเค ไชยนาม, นายชัยรัตน์ แซ่ฮึง, นายไกรสร สิริภิญโญภาคย์ และนายองอาจ ทองคลี่ โดยทั้งหมดถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางโพงพาง และทหาร พล.ม.2 รอ. ผสานกำลังจับกุมขณะลักลอบเล่นการพนันไฮโลกันภายในบ้านไม่มีเลขที่ ซ.จันทร์ 21 แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร กทม.เมื่อวันที่ 29 ส.ค. โดยมีอาหนีเป็นเจ้ามือ
ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าวถือเป็นการฝ่าฝืนนโยบาย คสช.ที่สั่งห้ามเล่นการพนันโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นการจับกุมครั้งที่ 2 โดยครั้งแรกจับกุมเมื่อ 26 ส.ค. ทั้งหมดถูกจับขณะเล่นพนันไฮโล ส่งท้องที่ สน.บางโพงพาง พนักงานสอบสวนทำเรื่องส่งฟ้องศาล ศาลตัดสินลงโทษปรับไปรายละ 1,000-1,500 บาท แต่เมื่อได้รับการปล่อยตัวก็กลับมาแอบลักลอบเปิดเล่นอีก ทาง สน.บางโพงพางจึงประสานขอกำลังทหารจาก พล.ม.2 รอ.เข้าร่วมจับกุมอีกครั้ง ก่อนควบคุมตัวนักพนันทั้งหมดมาไว้ที่บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย 1 วัน ก่อนถ่ายรูป ทำประวัติ สอบสวนเบื้องต้น และส่งตัวมาควบคุมตัวเพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติที่ห้องขังกองบังคับการปราบปรามอีก 6 วัน ตั้งแต่ 30 ส.ค. - 4 ก.ย.
อย่างไรก็ตาม นักพนันทั้งหมดต่างบอกกันเป็นเสียงเดียวว่าเข็ดแล้วจะไม่กลับไปเล่นอีก เพราะไม่อยากต้องมานอนในห้องขังของกองปราบฯ อีก เพราะมีนายเค ไชยนาม ที่พิการเป็นใบ้ได้เล่าผ่านภาษามือและท่าทางว่าเห็นวิญญาณอดีตผู้ต้องขังที่เสียชีวิตจากการผูกคอตายในห้องขังจนนอนไม่หลับ ต้องเดินไปมารอบห้องขังตลอดทั้งคืนทำให้คนอื่นพลอยนอนไม่หลับไปด้วย
สำหรับประวัติความเฮี้ยนของผีเสื้อแดงนั้นเป็นที่เล่าลือกันมานาน ที่ผ่านมาได้มีผู้ต้องขังพยายามผูกคอตายมาแล้วหลายครั้ง มีผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ นายฉลาด เสนารัตน์ วัย 40 ปี อาชีพขี่จักรยานยนต์รับจ้าง ผู้ต้องหาข่มขืนหลานสาวในไส้วัย 11 ขวบจนตั้งท้องและคลอดลูก อีกรายคือ นายศักดิ์ชัย อุตตะละ วัย 50 ปี อาจารย์ประจำชั้น ป.4 โรงเรียนบ้านคำตานา อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ผู้ต้องหากระทำชำเราลูกศิษย์วัย 13 ปีของตัวเอง แต่ในรายของนายศักดิ์ชัย เจ้าหน้าที่ช่วยได้ทัน แต่ก็ไปผูกคอตายที่บ้านเกิด และที่ผ่านมาเคยมีการนิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีสวดมนต์ปัดรังควาน และทำบุญมาแล้ว 2 ครั้ง แต่ก็ยังเกิดเหตุสยองขวัญขึ้นอีก
เมื่อหลายปีก่อน นางอรุณรัตน์ พูนดิษฐ์ อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาคดียักยอกทรัพย์ที่ถูกเพิ่งจับกุมตัวตามหมายจับศาลตลิ่งชั่น ที่ 877/2552 ลงวันที่ 20 ส.ค. 2552 ข้อหายักยอกทรัพย์ มีพฤติการณ์หลบหนีไม่มาศาลตามกำหนดนัด ยืนเกาะประตูห้องขังกองปราบปรามส่งเสียงร้องอยู่หน้าห้องขังขอให้ตำรวจช่วยมาอยู่เป็นเพื่อนเพราะถูกผีหลอก
เบื้องต้นจากการสอบถามนางอรุณรัตน์ให้การด้วยสีหน้าตื่นตระหนกว่า หลังจากถูกจับกุมตัวมาแล้ว พนักงานสอบสวนก็นำตัวไปสอบปากคำก่อนที่จะนำลงมาขัง เนื่องจากจะต้องรอนำตัวส่งศาล ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสิบเวรที่หน้าห้องขังได้มอบผ้ายันต์ท้าวเวสสุวรรณสีแดงมาให้หนึ่งผืน ตอนแรกก็ไม่รู้สึกเอะใจอะไร หลังจากเข้าห้องขังก็พยายามจะนอนพักผ่อน จนเวลาประมาณตี 1 กว่าๆ ขณะนั้นรู้สึกครึ่งหลับครึ่งตื่นเหมือนกำลังฝัน พบชายวัยกลางคนสวมใส่เสื้อกล้ามสีแดงมายืนเกาะที่บริเวณประตูห้องขัง แล้วบอกว่าเขาถูกขังอยู่นานแล้ว ขอให้ตนช่วยนำเขาออกจากห้องขังนี้ที พร้อมกับบอกพิธีก็คือให้อัญเชิญพระและตราของแผ่นดินมาไว้ภายในห้องขังกองปราบปรามก็จะทำให้เขาเป็นอิสระทันที หากไม่ทำเขาก็จะถูกขังอยู่ในห้องขังของกองปราบปรามตลอดไป
นางอรุณรัตน์กล่าวต่อว่า ขณะนั้นได้มีเจ้าหน้าที่เดินมาตรวจดูความเรียบร้อยภายในห้องขัง จึงหันไปถามว่าผู้ต้องหาชายสวมเสื้อแดงที่ถูกขังอยู่ห้องใกล้กันหายไปไหนแล้ว จึงทราบความจริงว่ามีตนถูกขังอยู่เพียงคนเดียวทำให้รู้สึกหวาดกลัว จึงขอร้องให้สิบเวรนายดังกล่าวมานั่งคุยเป็นเพื่อนจนสว่าง และเพิ่งจะทราบความจริง โดยก่อนหน้านี้ตนไม่เคยทราบข่าวผีเสื้อแดงมาก่อนเลย