“ปวีณา” พา “พริตตี้สาว” ขึ้น สน.ร่มเกล้า แจ้งจับ ร.ต.ท. ทำร้ายร่างกาย พงส. เตรียมเรียกตัวรับทราบ 3 ข้อหา ทั้งทำร้ายร่างกาย ทำให้เสียทรัพย์ และทำให้เกิดความอับอาย
จากกรณี น.ส.เจน (นามสมมติ) อายุ 22 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง อาชีพเสริมเป็นสาวพริตตี้ ร้องเรียนต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ว่า ถูกตำรวจยศ ร.ต.ท.ชื่อ แก๊ส (นามสมมติ) ทำร้ายร่างกาย พยายามข่มขืน และทำให้อับอาย เหตุเกิดเวลา 04.00 น. วันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมานั้น
เย็นวานนี้ (3 พ.ย.) ที่ สน.ร่มเกล้า นางปวีณา พร้อมด้วย น.ส.เจน เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.วิเชียร สว่างแจ้ง พงส.ผทค.สน.ร่มเกล้า เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับร.ต.ท.แก๊ส พนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี คู่กรณี
พ.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า ถือเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนเป็นอย่างมาก อีกทั้งมีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งจากการตรวจสอบทราบว่า ขณะนี้ ร.ต.ท.แก๊สย้ายไปช่วยราชการที่ สน.นิมิตใหม่ เบื้องต้นจะแจ้ง 3 ข้อหา คือ ทำร้ายร่างกาย ทำให้เสียทรัพย์ และทำให้เกิดความอับอาย โดยจะเชิญผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหา พร้อมดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน น.ส.เจน เข้าร้องเรียนกับนางปวีณา ว่า หมวดแก๊ส (นามสมมติ) ไปรับจากที่ทำงานย่านถนนเกษตร-นวมินทร์ เมื่้อเวลา 04.00 น. วันที่ 1 พฤศจิกายน ไปที่บ้านของหมวดแก๊ส ซึ่งอยู่ในเคหะร่มเกล้า เมื่อไปถึงตนนอนพักผ่อนและเผลอหลับไป โดยวางโทรศัพท์มือถือทิ้งไว้ รู้สึกตัวตื่นอีกทีตอนที่หมวดแก๊สใช้มือกระชากผม จากนั้นฉีกเสื้อผ้าและใช้กรรไกรตัดเสื้อผ้าขาดจนล่อนจ้อน ซึ่งตัวหมวดแก๊สก็อยู่ในสภาพร่างกายเปลือยเปล่าเช่นกัน จากนั้นก็ใช้ปากดูดและกัดตามคอและเนินอก จนมีรอยเป็นจ้ำ พร้อมกับบอกว่าต้องการให้ตนได้รับความอับอาย โทษฐานที่คุยไลน์กับเพื่อนรุ่นน้อง ซึ่งคนที่ตนคุยด้วยเป็นน้องนักศึกษาชั้นปี 1 มหาวิทยาลัยเดียวกัน และยังเป็นคนบ้านเดียวกันอีกด้วย หลังจากที่ใช้ปากดูดคอตนเป็นจ้ำแล้ว ก็ใช้มือทั้งสองจับขาของตนแยกออกจากกัน หมายจะข่มขืน แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ ใช้เท้าเหยียบบริเวณหน้าซ้ายของตน และใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปไว้ พร้อมกับพูดข่มขู่ว่าหากไปบอกใครจะเผยแพร่ภาพให้ตนอับอาย และไม่สามารถทำงานได้ จากนั้นหมวดแก๊สใช้มือจิกผมลากตนออกจากบ้านในสภาพเปลือยเปล่า และไล่ให้กลับที่พักของตนเอง ซึ่งห่างจากบ้านหมวดแก๊สประมาณ 3-4 กิโลเมตร
ระหว่างนั้นตนคว้าเสื้อเชิ้ตมาได้ตัวหนึ่งพอจะปกปิดร่างกายได้บ้าง แต่ก็เป็นเพียงแค่ท่อนบน ส่วนท่อนล่างไม่มีอะไรปกปิดสักชิ้นเดียว รองเท้าก็ไม่ได้ใส่ วิ่งออกมาโดยไม่คิดชีวิต เมื่อวิ่งออกจากบ้านดังกล่าวสักพักหนึ่งมีแท็กซี่พลเมืองดีจอดรับ และบอกไม่ต้องกลัวเดี๋ยวจะไปส่งให้ถึงที่พักในมหาวิทยาลัยให้ ตนจึงกระโดดขึ้นแท็กซี่ทันที โดยแท็กซี่คันดังกล่าวพาตนมาถึงที่พักในมหาวิทยาลัยด้วยความปลอดภัย และไม่เก็บค่าโดยสารแม้แต่บาทเดียว
น.ส.เจน เล่าว่า เมื่อเพื่อนๆ เห็นสภาพ จึงพาส่ง รพ.ลาดกระบัง เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ เมื่ออาการทุเลาตนตัดสินใจจะไปแจ้งความ แต่ก็เกิดกลัวเพราะหมวดแก๊สเป็นตำรวจในท้องที่ จึงตัดสินใจที่จะเข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณา
ด้านพ.ต.อ.วิเชียร ผู้เสียหายหลังถูกถูก ร.ต.ท.ผดุง หล่อนิล หรือ หมวดแก๊ส พนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี แฟนเก่าที่เคยคบหาดูใจกันมานานกว่า 1 ปี ทำร้ายร่างกาย แล้วใช้เท้าเหยียบหน้าถ่ายรูปแบล็คเมล์ ก่อนบังคับไล่ออกจากบ้านโดยที่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าแม้แต่ชิ้นเดียว ว่าขณะนี้อยู่ในขั้นตอนสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐาน ใบรับรองแพทย์ ไลน์แชทระหว่างคู่กรณีทั้งสอง รวมถึงกล้องวงจรปิดที่กำลังให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบ บริเวณร้าน 7-11 หน้าปากซอยเคหะร่มเกล้า 29 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง ซึ่งเป็นจุดที่น.ส.เจนเรียกรถแท็กซี่ให้ไปส่งที่พัก โดยจากการตรวจสอบพบว่า มีกล้องวงจรปิด จำนวน 4-5 ตัว ทั้งนี้มีการประสานไปยังผู้บังคับบัญชา ของร.ต.ท.ผดุง หล่อนิล เกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นแล้วตามขั้นตอน
ด้านพ.ต.อ.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบก.น.3 กล่าวว่า เมื่อวันที่ 3 พ.ย. มีคำสั่งให้ ร.ต.ท.ผดุง มาปฏิบัติหน้าที่ที่ บก.น.3 เป็นเวลา 30 วัน พร้อมทั้งให้พ.ต.อ.กัญชล อินทราราม ผกก.สน.มีนบุรี ผู้บังคับบัญชาของร.ต.ท.ผดุง ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่ามีมูลเหตุความผิดมากน้อยเพียงใด
