ตม.จับกุมผู้ต้องหาชาวเสปน ลักลอบปลอมหนังสือเดินทาง หนีคดีฉ้อโกงมลค่าความเสียหาย 100 ล้าน เข้ามากบดานในไทย พร้อมยืนยัน “จักตาร์ ซิงห์ ทารา” ผู้ก่อการร้ายชาวอินเดียที่หลบหนีออกจากเรือนจำยังหลบซ่อนอยู่ในไทยตั้งแต่วันที่ ก.ย. หลังตรวจพบใช้หนังสือเดินทางปากีสถาน
วันนี้ (30 ต.ค.) ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ท.ศักดา ชื่นภักดี รรท.ผบช.สตม พร้อมด้วย พล.ต.ต.วราวุธ ทวีชัยการ ผบก.สส.สตม พ.ต.อ.เชิงรณ ริมดี ผกก.ด่านตรวจคนเข้าเมือง พ.ต.ท.ศุภชัย พลเดช รอง ผกก.สส.ท่าอาการศยานกรุงเทพ บก.สตม.2 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม นายหลุยส์ บัตเล วียาเซกา (Luis Batlle Vilaseca) อายุ 54 ปี สัญชาติสเปน พร้อมหนังสือเดินทางสัญชาติเม็กซิโกปลอม หลังตรวจพบใช้หนังสือเดินทางปลอกปากีสถาน
พ.ต.อ.เชิงรณกล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการประสานมาจากตำรวจประเทศสเปนให้ทำการตรวจสอบการเดินทางของผู้ต้องหารายนี้ หลังพบข้อมูลว่าจะมีการเดินทางเข้ามาในไทย จึงได้ทำการตรวจสอบแต่ไม่พบฐานข้อมูลปรากฏตามชื่อ จึงได้ทำการตรวจสอบชื่อที่มีลักษณะคล้ายกันก็ไปพบว่ามีชื่อต้องสงสัยชื่อนายหลุยส์ มานูเอล บัตเล คอสตา (Luis Manuel Batlle Costa) สัญชาติเม็กซิโก อีกทั้งแนวทางการสืบสวนพบว่าเป็นคนเดียวกัน จึงได้ขยายผลจนทราบว่าผู้ต้องหารายนี้จะเดินทางจากเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา เข้ามาในประเทศไทย โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินเอฟดี 619 ในวันที่ 29 ต.ค. จึงได้ทำการเฝ้าสกัดจนกระทั่งจับกุมได้ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่าคนร้ายได้มีการปลอมแปลงบัตรประชาชน และหนังสือเดินทางปลอม นอกจากนี้ผู้ต้องหารายนี้ถือเป็นผู้ต้องหาที่ทางการสเปนต้องการตัวเป็นอย่างมากเนื่องจากก่อเหตุฉ้อโกงประชาชนโดยการโฆษณาจัดหาแรงงานในประเทศแถบอเมริกาใต้ว่าสามารถที่จะหางาน รวมทั้งเอกสารต่างๆ ในการไปทำงานที่ประเทศแถบยุโรป แต่มีค่าใช้จ่าย 500 ยูโร หรือ 2 หมื่นบาท ซึ่งที่ผ่านมาได้หลอกผู้เสียหายไปกว่า 5,000 ราย มูลค่ากว่า 2.5 ล้านยูโร หรือ 100 ล้านบาท เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาปลอมและใช้หนังสือเดินทางปลอม ก่อนนำตัวผู้ต้องหาไปดำเนินตดีตามกฎหมายต่อไป
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีของนายจักตาร์ ซิงห์ ทารา ซึ่งเป็นผู้ก่อการร้ายชาวอินเดีย ที่เคยก่อเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ได้หลบหนีออกจากเรือนจำในประเทศอินเดีย ก่อนแฝงตัวเดินทางข้ามแดนไปยังประเทศมาเลเซีย พล.ต.ต.วราวุธ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหารายนี้ได้เข้ามาในไทยวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา แต่ทางประเทศอินเดียได้มีการประสานเข้ามาเมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยใช้หนังสือเดินทางประเทศปากีสถาน ขณะนี้ได้ทำการออกหมายจับผู้ร้ายข้ามแดนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้มอบหมายให้ชุดสืบสวนกระจายกำลังลงพื้นที่หาข่าว เชื่อว่าคนร้ายยังคงกบดานในไทย เนื่องจากได้ตรวจสอบข้อมูลการเดินทางของนายจักตาร์แล้วพบว่ายังไม่พบว่ามีการเดินทางออกนอกประเทศแต่อย่างใด