ตร.ลงพื้นที่ตรวจเอสพีคลินิกเวชกรรม พบเปิดให้บริการศัลยกรรมโดยได้ไม่รับอนุญาต โดยส่วนใหญ่จะผ่าตัดเสริมทรวงอก พบพิรุธใบประวัติเหยื่อสาวชาวอังกฤษหาย เพื่อป้องกันเหตุซ้ำซ้อนเตรียมตรวจสอบสถานพยาบาลที่รับศัลยกรรมทั้งหมด นำร่องในพื้นที่กรุงเทพมหานครก่อน
จากกรณี น.ส.จอย โนอาร์ วิลเลียม อายุ 24 ปี สัญชาติอังกฤษ เสียชีวิตหลังจากรับการผ่าตัดศัลยกรรมจากเอสพี คลินิกเวชกรรม เฉพาะทางศัลยกรรม ย่านซอยลาดพร้าว 41/1 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม. เมื่อเวลา 23.00 น.ของวันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งหานพ.สมภพ แสนศิริ แพยท์เจ้าของคลินิกและแพยท์ที่กระทำการรักษาผู้เสียชีวิตว่ากระทำการโดยประมาณจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ก่อนจะคุมตัวไปฝากขังแล้วเมื่อเวลา 10.30 น.ที่ผ่านมา
วันนี้ (24 ต.ค.) พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก รรท.รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วยนายชาตรี พินใย นิติกรชำนาญการพิเศษ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เดินทางมายัง สน.พหลโยธิน เพื่อตรวจสอบความคืบหน้าทางคดี พร้อมระบุว่าเบื้องต้นตนได้พูดคุยกับ นพ.อาคม ประดิษฐ์ สุวรรณ ผอ.สำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ (สบส.สธ) ซึ่งเป็นผู้ดูแลโรงพยาบาล 100 แห่ง และคลินิก 4,000 แห่งทั้งหมด ขณะเดียวกันก็ได้ประสานพูดคุยกับ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขในเบื้องต้นแล้ว โดยทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการตรวจสอบสถานพยาบาลที่เปิดให้บริการทั้งหมด เริ่มนำร่องในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยจะให้ทางผู้อำนวยการสำนักงานสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจของกองบัญชาการตำรวจนครบาลทั้ง 88 สน.ลงพื้นที่ตรวจสอบตาม 5 มาตการ 1. เร่งให้สถานพยาบาลสื่อสารให้ผู้รับบริการทราบรายละเอียด และเป็นสถานบริการที่ได้รับอนุญาตเฉพาะทางขึ้นทะเบียนถูกต้องเท่านั้น 2. แพทย์ผู้รักษาต้องเป็นแพทย์เฉพาะทางศัลยกรรมตกแต่ง และต้องได้รับอนุญาตจากแพทยสภาเท่านั้น 3. คลินิกแพทย์ต้องถูกต้องตามกฎหมายโดยต้องแสดงใบอนุญาต 4. ต้องแสดงรูปถ่าย/ใบประกอบวิชาชีพโรคศิลปะให้ผู้รับบริการทราบ 5. แสดงอัตราค่ารักษาบริการติดไว้ชัดเจนให้คนไข้สามารถสอบถามและตรวจสอบได้ โดยเริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป
นายชาตรีกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวถือว่าเป็นข้อกำหนดที่มีในกฎหมายอยู่แล้ว แต่หลังจากนี้ไปจะเข้มงวดในการตรวจสถานพยาบาลต่างๆ มากขึ้น เพื่อให้เกิดความมั่นใจแก่ประชาชนที่จะเข้ารับการรักษา
จากนั้นเมื่อเวลา 15.00 น. พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก รรท.รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พ.ต.อ.นิพนธ์ เจริญศิลป์ รรท.ผกก.สน.พหลโยธิน และพ.ต.ท.เฉลียง อินทิพย์ พงส.สน.พหลโยธิน ได้เดินทางไปตรวจสถานพยาบาลเอสพีคลินิก ย่านลาดพร้าว ซอย 41/1 ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุอีกครั้ง พล.ต.ท.เรืองศักดิ์กล่าวว่า การเข้ามาตรวจสอบคลินิกดังกล่าวอีกครั้งเพื่อให้ทางพนักงานสอบสวนตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุเพิ่มเติม ทั้งนี้ยังพบว่ามีรายชื่อผู้เข้ามารับบริการที่คลินิกแห่งนี้มีการผ่าตัดในช่วงเวลากลางดึกตั้งแต่หลัง 20.00 น.ไปจนถึงเวลา 04.00 น. ถือว่าคลินิกแห่งนี้เปิดแทบจะ 24 ชั่วโมง ทั้งที่มีการอนุญาตให้เปิดได้ในเวลาตั้งแต่ 09.00-20.00 น.เท่านั้น โดยพบว่าส่วนใหญ่จะผู้ที่เข้ารับบริการนัดกว่าร้อยละ 80 มีการศัลยกรรมผ่าตัดเสริมทรวงอก ซึ่งจะมอบรายละเอียดในส่วนนี้ให้พนักงานสอบสวนเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีทางเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหาเพิ่ม มีความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ตามมาตรา 16 และมาตรา 24 ในข้อหาประกอบกิจการและดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่พบประวัติของ น.ส.จอย โนอาห์ วิลเลียม ได้หายออกไปจากประวัติการรักษาของผู้เข้ารับบริการรายอื่นๆ เพียงรายเดียว พล.ต.ท.เรืองศักดิ์กล่าวว่า ขณะนี้ยังต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่าใบประวัติของ น.ส.จอย โนอาห์ วิลเลียม หายไปไหนได้อย่างไร ทั้งนี้กรณีที่มีการตั้งข้อสงสัยว่า น.ส.จอยมีการผ่าตัดและพบว่าหยุดหายใจก่อนที่จะมีการปฐมพยาบาล พร้อมกับการปั๊มหัวใจที่บริเวณชั้น 2 แต่พบว่า น.ส.จอยไม่หายใจ ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ของคลินิกมีการเคลื่อนย้ายร่างของ น.ส.จอยลงมายังบริเวณชั้น 1 ของคลินิกดังกล่าวว่ามีความผิดหรือไม่นั้น ทางเจ้าหน้าที่ขอเวลาในการตรวจสอบรายละเอียดเรื่องดังกล่าวก่อน หากพบว่าตรงกับความผิดในข้อหาใดก็จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีกอย่างแน่นอน