ศาลสั่งจำคุก 30 ปี โจ๋กะเทยพา ด.ญ. วัย 14 ปี เร่ค้ากามกลางเมืองกาฬสินธุ์ จนถูกตำรวจ ปคม. ล่อซื้อคาโรงแรม แต่จำเลยสารภาพลดโทษคงจำคุก 15 ปี และให้จ่ายเงินค่าสินไหมแก่ผู้เสียหายคนละ 2.5 แสน
ที่ห้องพิจารณา 805 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (22 ต.ค.) ศาลอ่านคำพิพากษาคดีค้าประเวณี หมายเลขดำ อ. 93/57 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ฟ้อง นายประวิทย์ หรือ วู้ดดี้ สุธรรมมา อายุ 22 ปี สาวประเภทสอง ชาว จ.กาฬสินธุ์ เป็นจำเลยในความผิดฐาน พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี จากบิดา มารดา หรือผู้ปกครอง เป็นธุระจัดหา ค้ามนุษย์ เพื่อแสวงหากำไร จากการค้าประเวณี
โจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2556 เวลากลางวัน เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) รับแจ้งจากสายลับว่า มีสาวประเภทสองรายหนึ่ง คือ จำเลยมีพฤติการณ์เป็นนายหน้าค้าประเวณีหญิง จึงปลอมตัวเข้าซื้อบริการ 3 คน ราคาคนละ 2,000 บาท โดยจำเลยจะได้ค่านายหน้ารายละ 500 บาท กระทั่งช่วงกลางคืนจำเลยได้พาเด็กหญิงวัย 14 ปี 2 คน และหญิงสาววัย 21 ปี 1 คน มาพบที่ โรงแรมแฮปปี้อินน์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวแจ้งข้อหาจับกุมจำเลยส่งพนักงานสอบสวน ปคม. ดำเนินคดี
ท้ายคำฟ้องพนักงานอัยการระบุด้วยว่า ด้วยอธิบดีพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) แจ้งว่า ที่ประชุมกระทรวงพัฒนาสังคมฯ พิจารณาแล้วมีมติเรียกร้องให้จำเลยจ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่เด็กหญิงผู้เสียหายทั้ง 2 คนๆ ละ 250,000 บาทด้วย จำเลยให้การรับสารภาพโดยตลอด
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ฝ่ายโจทก์มีหญิงผู้เสียหาย และเจ้าหน้าที่ชุดล่อซื้อจับกุม เข้าเบิกความสอดคล้องต้องกันในข้อเท็จจริง โดยไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน อันเป็นเหตุให้สงสัยว่าจะเบิกความปรักปรำใส่ร้ายจำเลยให้ต้องรับโทษ ประกอบกับจำเลยให้การรับสารภาพ เชื่อว่า จำเลยกระทำผิดจริง เป็นความผิดหลายกรรม ผิดกฎหมายหลายบท
พิพากษา ฐานพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปจากบิดา มารดา หรือผู้ปกครอง 2 กระทง จำคุกกระทงละ 5 ปี เป็น 10 ปี และฐานเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไป เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี เพื่อค้าประเวณี อันเป็นบทหนักสุด ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539 จำนวน 2 กระทง จำคุกกระทงละ 10 ปี เป็น 20 ปี รวมจำคุก 30 ปี คำรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกจำเลยไว้ 15 ปี และให้จำเลยจ่ายค่าสินไหมแก่เด็กหญิงผู้เสียหายคนละ 250,000 บาท