xs
xsm
sm
md
lg

ศาลยกฟ้อง “พระสุเทพ” ฟ้อง “ธาริต” ชี้ไม่ได้กลั่นแกล้งม็อบ กปปส.

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พระสุเทพ ปภากโร(แฟ้มภาพ)
ศาลยกฟ้องในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง คดี “พระสุเทพ” ฟ้อง  “ธาริต” ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ กรณีรับคดีชุมนุมทางการเมืองของกลุ่ม กปปส.เป็นคดีพิเศษ ชี้ไม่ได้กลั่นแกล้งโจทก์ให้ได้รับความเสียหาย
 
วันนี้ (20 ต.ค) ที่ห้องพิจารณาคดี 913 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก  ศาลนัดไต่สวนคดีหมายเลขดำ อ.9/2557 คดีที่พระสุเทพ ปภากโร เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นจำเลยในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายและหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ 326 จากกรณีเมื่อวันที่ 17-31 ธ.ค. 2556 จำเลยซึ่งเป็นเจ้าพนักงานได้ดำเนินการให้คณะกรรมการคดีพิเศษรับคดีที่โจทก์ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดอาญาจากการชุมนุมทางการเมืองเป็นคดีพิเศษโดยมิชอบ และได้ทำการแถลงข่าวหมิ่นประมาทโจทก์จากกรณีที่คณะกรรมการคดีพิเศษมีคำสั่งรับคดีดังกล่าวซึ่งทำให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียง

โดยในวันนี้นายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความโจทก์ ได้เดินทางมาศาลเพื่อจะดำเนินการไต่สวนพยาน แต่เมื่อถึงเวลาศาลได้พิจารณาคำฟ้องโจทก์แล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงเพียงพอที่จะวินิจฉัยได้ โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คณะกรรมการคดีพิเศษได้มีมติครั้งที่ 6/2556  ให้รับดำเนินคดีโจทก์กับพวกซึ่งถูกกล่าวหากระทำผิดอาญาจากการชุมนุมทางการเมืองในพื้นที่ กทม. จากนั้นวันที่ 17 ธ.ค. 2556 จำเลยในฐานะพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการตามคำสั่งของคณะกรรมการคดีพิเศษ รวมทั้งมีคำสั่งอายัดบัญชีเงินฝากของโจทก์ ซึ่งก็เป็นไปตามขั้นตอนที่พนักงานสอบสวนดีเอสไอได้เคยดำเนินการมาแล้ว กับคดีความผิดอาญาอื่นๆ ส่วนที่จำเลยได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับการดำเนินการตามคำสั่งของคณะกรรมการคดีพิเศษกับโจทก์ก็เป็นเพียงการให้ข้อเท็จจริงตามมติของคณะกรรมการที่จะต้องมีการประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาอยู่แล้ว ขั้นตอนดังกล่าวไม่ได้เป็นเงื่อนไขที่จะทำให้พนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจสอบสวนคดีดังกล่าว เมื่อไม่ปรากฏตามคำฟ้องโจทก์ว่าจำเลยได้กระทำการกลั่นแกล้งให้โจทก์ได้รับความเสียหาย การกระทำดังกล่าวจึงยังไม่เป็นความผิด พิพากษายกฟ้อง

ด้านนายสวัสดิ์ ทนายความกล่าวว่า หลังจากนี้จะยื่นอุทธรณ์คดีเพื่อขอให้ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ และให้ดำเนินการไต่สวนมูลฟ้องพยานโจทก์ใหม่ให้ครบถ้วน เนื่องจากคดีนี้โจทก์ได้เคยนำเจ้าหน้าที่ธนาคารมาเป็นพยานในชั้นไต่สวนมูลแล้วประมาณ 3 ปาก ซึ่งโจทก์ยังมีพยานที่จะเตรียมไว้ไต่สวนอีก แต่ปรากฏว่าวันนี้ศาลได้วินิจฉัยว่าข้อเท็จจริงเพียงพอแล้ว จึงได้งดการไต่สวนพยานที่เหลือ ขณะที่ฝ่ายโจทก์เห็นว่าการกระทำของนายธาริต เพ็งดิษฐ์ ที่ผ่านมาดังกล่าวนั้นไม่น่าจะถูกต้องตามขั้นตอน ทั้งนี้ การพิจารณาว่าจะอายัดบัญชีเงินฝากจะต้องสอบสวนให้ได้ความก่อนว่าทรัพย์สินนั้นเป็นส่วนที่เกิดจากการกระทำผิด ไม่ใช่การอายัดในลักษณะเหวี่ยงแหสั่งอายัดทรัพย์แกนนำกลุ่ม กปปส.ทุกคนทุกบัญชี
กำลังโหลดความคิดเห็น