สาธารณสุขพร้อม ตร.บุกตรวจค้นคลินิก พระราม 2 ย่านบางขุนเทียน หลังได้รับการร้องเรียนว่าลักลอบจำหน่ายยานอนหลับ จึงวางแผนล่อซื้อในราคาแผงละ 200 บาท โดยไม่มีใบสั่งจากแพทย์ พร้อมสั่งปิดชั่วคราว ส่งตัวหมอประจำคลินิกให้แพทยสภาสอบ
วันนี้ (25 ก.ย.) นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) พร้อมด้วย พ.ต.ต.นฤทธิ์ ผูกจิตร สว.กก.1 บก.บช.ปส. นายจิรวัฒน์ ศรีมงคลกล หัวหน้ากลุ่มกำกับดูแลหลังออกสู่ตลาด กองควบคุมวัตถุเสพติด สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กก.1 บก.บช.ปส. ได้เข้าตรวจค้นคลินิกพระราม 2 การแพทย์ เลขที่ 81/9 ปากซอยเทียนทะเล 6 ถนนเทียนทะเล แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. ภายหลัง หลังได้รับร้องเรียนว่าคลินิกดังกล่าวมีการจำหน่ายยาอัลฟาโซแลมป์ (ยานอนหลับ) วัตถุออกฤทธิ์ให้โทษประเภท 2 ที่มีการควบคุมให้แก่ประชาชน
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น จำนวน 1 คูหา บริเวณชั้นที่ 1 เปิดเป็นคลินิกเวชกรรมตรวจรักษาโรคทั่วไป จากการเข้าตรวจค้นพบ นพ.ประภาส กมลอำนวยกิจ แพทย์เจ้าของคลินิกดังกล่าว พร้อมของกลางยาอัลฟาโซแลมป์ จำนวน 500 แผง เจ้าหน้าที่จึงทำการอายัดของกลางทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน
นพ.ธเรศกล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนว่าคลินิกดังกล่าวมีการจำหน่ายยาอัลฟาโซแลมป์ วัตถุออกฤทธิ์ให้โทษประเภท 2 จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจวางแผนล่อซื้อยาดังกล่าวในราคาแผงละ 200 บาท เมื่อพบว่ามีการจำหน่ายจริง เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าทำการตรวจค้นจนพบของกลางดังกล่าว
จากการตรวจสอบพบว่า คลินิกดังกล่าวได้ปล่อยให้พนักงานภายในคลินิกจำหน่ายยาชนิดดังกล่าวให้ประชาชนโดยไม่มีการตรวจรักษาจากแพทย์ ทั้งนี้ ยาอัลฟาโซแลมป์นั้นเป็นยาอยู่ในการควบคุมของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ที่อนุญาตให้แพทย์สามารถจ่ายยาได้ภายหลังทำการตรวจรักษาแล้วเท่านั้น เพราะเป็นยาที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท หากรับประทานติดต่อกันเป็นระยะเวลานาๆ จะทำให้ผู้รับประทานติดยาดังกล่าวได้
โดยได้ตักเตือน นพ.ประภาสว่าหากต้องมีการจ่ายยาให้กับคนไข้ ถึงแม้จะเป็นคนไข้รายเดิมก็ต้องมีการตรวนรักษาอาการใหม่ทุกครั้งก่อนจ่ายยา หลังจากนี้จะทำการสั่งปิดคลีนิกดังกล่าวชั่วคราวเป็นระยะเวลา 30 วัน เพื่อให้ทางคลินิกปรับปรุงระบบจัดการใหม่ และส่งตัว นพ.ประภาสไปให้ทางแพทยสภาเพื่อตรวจสอบจริยธรรมต่อไป
ด้าน นพ.ประภาสกล่าวว่า ตนเปิดคลินิกดังกล่าวมาเป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว ขายยาตัวนี้มาตลอดไม่เคยมีปัญหาอะไร กระทั่งมีข้อกำหนดใหม่ขึ้นมา ปกติยาตัวนี้จะถูกเก็บไว้ในล็อกเกอร์ หากมีคนไข้มาซื้อต้องบอกตนซึ่งเป็นแพทย์ก่อนจึงจะจ่ายยาให้ แต่ที่พนักงานมีการจ่ายยาให้คนไข้เพราะบางทีเป็นคนไข้เดิมมาซื้อ พนักงานจึงขายให้ โดยปกติจะจ่ายยาให้คนไข้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไปเท่านั้น หากเป็นเด็กวัยรุ่นมาขอซื้อก็จะไม่จ่ายยาให้ และเคยจ่ายยาให้คนไข้มากสุดคือ 10 แผงต่อคนไข้ 1 ราย ส่วนใหญ่คนไข้ที่มาขอรับยาจะเป็นบุคคลที่มีอาการเครียดจากเรื่องราวต่างๆ ในชีวิต ทำให้มีอาการนอนไม่หลับจึงจ่ายยาให้ อย่างไรก็ตามยาชนิดนี่จะออกฤทธิ์ 1-8 ชั่วโมงเท่านั้น
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาผู้ดำเนินการหรือเจ้าของคลินิกปล่อยให้มีผู้ที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมจ่ายยา มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท และจำหน่ายยาออกฤทธิ์ประเภท 2 มีโทษจำคุก 5-10 ปี ปรับ 100,000-400,000 บาทต่อ นพ.ประภาส พร้อมทั้งแจ้งข้อหาผู้ที่จำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 ไม่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 30,000 บาท ต่อพนักงานของคลินิกดังกล่าว ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป