ตำรวจ บก.น.2 ถกชุดสืบสวนเร่งจับกุมคนร้ายยิงโจ๋ปทุมวันดับ 2 ศพ มุ่งตรวจหากล้องวงจรปิดเพิ่มและตรวจสอบเส้นทางที่ผู้ตายขับขี่ จยย. คาดไม่โยงคดียิง นศ.เพาะช่าง เพราะไม่ใช่คู่ขัดแย้ง
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (13 ก.ย.) ที่ สน.เตาปูน พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.ภัทรภณ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผกก.สน.เตาปูน พ.ต.ต.สุรเดช ฉัตรไทย สว.สส.สน.เตาปูน พร้อมเจ้าหน้าที่ร่วมประชุมความคืบหน้าของคดีที่มีคนร้าย 2 คน ขับขี่จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีดำ-แดง ประกบยิงนายชิษณุพงศ์ ศรีคชา อายุ 18 ปี และนายพลวัต จันทร์วิเศษ อายุ 21 ปี นักศึกษาชั้นปี 1 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สถาบันเทคโนโลยีปทุมวันเสียชีวิตบริเวณถนนเทอดดำริห์ขาเข้า ริมสถานีชุมทางรถไฟบางซื่อ แขวงและเขตบางซื่อ กทม. เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 12 ก.ย.เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ 13 ก.ย.ที่ สน.เตาปูน พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.ภัทรภณ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผกก.สน.เตาปูน พ.ต.ต.สุรเดช ฉัตรไทย สว.สส.สน.เตาปูน พร้อมเจ้าหน้าที่ร่วมประชุมความคืบหน้าของคดีที่มีคนร้าย 2 คน ขับขี่จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีดำ-แดง ประกบยิงนายชิษณุพงศ์ ศรีคชา อายุ 18 ปี และนายพลวัต จันทร์วิเศษ อายุ 21 ปี นักศึกษาชั้นปี 1 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สถาบันเทคโนโลยีปทุมวันเสียชีวิตบริเวณถนนเทอดดำริห์ขาเข้า ริมสถานีชุมทางรถไฟบางซื่อ แขวงและเขตบางซื่อ กทม. เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.เจริญ กล่าวว่า จากการประชุมล่าสุดตนสั่งการให้ชุดสืบสวนหาเส้นทางคนร้าย โดยเริ่มตามตั้งแต่ผู้เสียชีวิตไปเอาจักรยานยนต์ที่แยกเจริญผล ขี่มาทางถนนบรรทัดทอง ถนนเพชรบุรี ถนนพระราม 6 ถนนประดิพัทธ์และจุดเกิดเหตุ โดยอยู่ระหว่างการตรวจสอบหากล้องวงจรปิดเพิ่มเติมเพื่อวิเคราะห์รูปพรรณตำหนิคนร้าย เนื่องจากมีกล้องสามารถจับภาพได้เพียงจุดเดียว นอกจากนี้จะส่งหัวกระสุนที่พบในจุดเกิดเหตุและในตัวผู้ตายให้ทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานระบุชนิดของหัวกระสุน คดีนี้ไม่พบความเชื่อมโยงกับคดียิงบนนักศึกษาวิทยาลัยเพาะช่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ได้รับบาดเจ็บบนรถไฟเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา แต่ได้ประสานกับ บก.รฟ.เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน โดยคดีนี้เจ้าหน้าที่ไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งเรื่องความขัดแย้งระหว่างสถาบันหรือเรื่องการขับขี่แล้วมีปัญหากระทบกระทั่งกัน แต่จากการสอบสวนญาติผู้เสียชีวิตไม่พบว่ามีปัญหาเรื่องส่วนตัวเนื่องจากยังเป็นเด็ก อย่างไรก็ดี หากมีใครเห็นเหตุการณ์สามารถเข้ามาให้ข้อมูลได้ที่ สน.เตาปูน
วันเดียวกันเมื่อเวลา 12.30 น. ที่นิติเวช รพ.ตำรวจ ญาติและเพื่อนนักเรียนของนายชิษณุพงศ์และนายพลวัตมารอรับศพท่ามกลางความโศกเศร้า
โดยนางอำพร โสภา อายุ 38 ปี มารดาของนายชิษณุพงศ์ กล่าวด้วยความโศกเศร้าว่าตนยังไม่สามารถทำใจได้ ไม่เคยคาดคิดว่าจะเกิดเรื่องราวเลวร้ายกับครอบครัวได้ขนาดนี้ โดยบ้านของตนนั้นอยู่ที่ จ.นครปฐม ลูกชายได้เข้าเรียนที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ น้องก็ได้ย้ายไปอยู่กับย่าย่านบางซ่อน ขณะเกิดเหตุนั้นก็ใกล้จะถึงบ้านย่าแล้ว อีกทั้งน้องเองก็จะระวังตัวอยู่ก่อนแล้ว โดยน้องจะมีการใส่เสื้อแจ็กเกตคลุมชุดนักเรียนทุกครั้งที่ออกจากบ้าน ตอนนี้ทุกคนที่บ้านยังรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยจะนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม
ด้านนายอติชาติ จันทร์วิเศษ อายุ 50 ปี บิดาของนายพลวัต กล่าวว่า ตนมีลูกชายทั้งหมด 3 คน นายพลวัตเป็นลูกชายคนโต และก่อนหน้านี้เรียน ปวส.ที่วิทยาลัยเทคนิค จ.ร้อยเอ็ด โดยนายพลวัตเป็นเด็กเรียนดี และมีความใฝ่ฝันอยากจบปริญญาตรี เพราะอยากทำงานหาเงินมาดูแลครอบครัว และเขาสามารถใช้โควตาเกรดเฉลี่ยเข้าคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์ได้ตามความฝัน ก่อนนายพลวัตจะย้ายมาอยู่บ้านแฟนสาวย่านบางโพ แขวงและเขตบางซื่อ ตนยอมรับว่าแม้จะดีใจกับลูกชายแต่ครอบครัวก็อดกังวลใจไมได้ เพราะได้ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างสถาบันมาโดยตลอด และรู้สึกเป็นห่วงนายพลวัตมาก แต่ก็ทำได้เพียงเตือนให้ลูกชายระวังตัวให้ดีที่สุด ลูกชายตนไม่เคยมีเรื่องทะเลาะหรือบาดหมางกับใคร และเขาจะระวังตัวเองตลอด เวลาออกไปไหนมาไหนก็จะมีเสื้อคลุมชุดนักเรียนตลอดเวลาอยู่แล้ว
นายอติชาติกล่าวอีกว่า ปกตินายพลวัตจะโทร.กลับมาที่บ้านที่ จ.ร้อยเอ็ดทุกวัน แต่วันก่อนเกิดเหตุนั้นมีการคุยโทรศัพท์กันนานกว่าปกติ ซึ่งภรรยาของตนได้กำชับให้ลูกชายระวังตัวให้มากๆ เพราะรู้สึกใจคอไม่ดี และก็บอกให้ลูกอดทน ตั้งใจเรียน จบมาจะได้หางานดีๆ ทำ และเมื่อถึงวันเกิดเหตุ ตนเพิ่งกลับจากทำงานช่วงหัวค่ำ ก็มีญาติวิ่งมาบอกว่าตำรวจโทรศัพท์มาบอกว่าลูกชายถูกยิง ตอนนั้นตนยอมรับว่ายังภาวนาขอให้เป็นการเข้าใจผิด ไม่ใช่ลูกชายของตน แต่เมื่อได้รับการยืนยันจากตำรวจ ตนและครอบครัวก็รู้สึกช็อกและเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก แต่ตนก็รู้ว่าไม่สามารถเรียกร้องเอาลูกชายคืนมาได้แล้ว แต่อยากจะขอฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดูแลคดี และผู้เกี่ยวข้องทุกคนว่า ขอให้กรณีลูกชายของตนเป็นรายสุดท้ายเสียที อย่าให้ต้องเกิดความสูญเสียอีกเลย โดยทางครอบครัวจะนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัดศรีสะอาด ต.หนองแวง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ดต่อไป
นายวีนัส ทัดเนียม รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและกิจการพิเศษ กล่าวว่า ทางสถาบันมีการเตรียมมาตรการในการดูแลความปลอดภัยของนักศึกษาอยู่แล้ว โดยจะมีการผลักดันให้กลับบ้านภายในเวลา 16.00-17.00 น. ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีกำลังตำรวจ และทหารมาช่วยดูแลความปลอดภัยบริเวณหน้าสถาบันทั้งปทุมวันและอุเทนถวาย ทั้งนี้ยังมีการประชุมกันระหว่าง 2 สถาบันร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ทหารเป็นประจำทุกเดือน ถึงความเข้มงวดในการดูแลนักศึกษา แต่ในกรณีดังกล่าวนี้ เป็นเหตุที่เกิดขึ้นข้างนอก ทราบว่าผู้ก่อเหตุมีการจงใจติดตามนักศึกษาทั้ง 2 คนจากโลตัสในย่านนั้น ก่อนที่จะตามประกบยิงดังกล่าว ซึ่งยอมรับว่าตั้งแต่เกิดเหตุ ทุกคนก็ตกใจ หลังจากนี้ต้องกลับไปประชุมกับทางผู้บริหารเพื่อหามาตรการดูแลความปลอดภัยอีกครั้งหนึ่ง โดยก่อนหน้านี้เราประสานขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่บ้านเมืองในการช่วยดูแลเส้นทางนักศึกษากลับบ้านในเส้นทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ป้ายรถเมล์ ท่าเรือ รถไฟฟ้า และรถใต้ดินไว้แล้ว และขอฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เร่งหาคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ เพื่อไขข้อข้องใจว่าสาเหตุที่แท้จริงเกิดจากคนกลุ่มใดกันแน่
