อดีตนายกสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนพรตพิทยพยัต แจ้งจับคลินิกรับฉีดเฟรซเซลล์ เพื่อรักษาโรคเส้นเลือดในสมองตีบ เสียค่ารักษาไป 2 ล้านเศษ แต่อาการไม่ดีขึ้น เตรีมเรียกเจ้าของประกอบกิจการมาสอบปากคำ
วันนี้ (9 ก.ย.) นายสุรศักดิ์ พงษ์ศักดิ์ภักดี อดีตนายกสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนพรตพิทยพยัต และ นางอำพา พงษ์ศักดิ์ภักดี ภรรยา ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.จารุต ศรุตยาพร ผกก.สน.ปทุมวัน พ.ต.ท.พนม เชื้อทอง รอง ผกก.สส.สน.ปทุมวัน เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ลงบันทึกประจำวันให้ดำเนินการกับคลินิกแห่งหนึ่งย่านปทุมวัน หลังจากเข้ารับการรักษาด้วยการฉีดเฟรซเซลล์เพื่อรักษาโรคเส้นเลือดในสมองตีบ แล้วปรากฏว่าอาการไม่ดีขึ้น
นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ตนได้ป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบที่บริเวณศีรษะด้านซ้าย ส่งผลให้ร่างกายส่วนขวาเกิดอาการชาาและไม่มีแรง ทำให้เดินเหินไม่สะดวก ต่อมาได้มีคนรู้จักแนะนำให้ไปรักษาที่คลินิกดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่บนเลขที่ 1503 ชั้น 15 ในห้างสรรพสินค้าชินดังใจกลางเมือง เมื่อตนไปถึงก็มีพนักงานซึ่งเป็นพยาบาลได้เข้ามาแนะนำขั้นตอนการรักษา โดยเบื้องต้นทางแพทย์จะทำการฉีดเฟรซเซลล์ ซึ่งทำมาจากเซลล์ของแกะ ให้ เป็นจำนวน 3 ครั้ง ครั้งละ 12 เข็ม รวมทั้งสิ้น 36 เข็ม มีค่าใช้จ่ายจำนวน 1,300,000 บาท
นายสุรศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตนและภรรยาจึงได้ตัดสินใจทำการรักษา โดยจ่ายเงินค่ารักษาเป็นจำนวนเงิน 2,600,000 บาท หลังจากจ่ายเงินแล้วก็ได้ทำการฉีดครั้งแรกไปเมื่อวันที่ 21 ก.พ. และครั้งที่ 2 วันที่ 25 กพ. โดยฉีดเข้าที่ร่างกาย บริเวณเข่าซ้ายขวา หลังไหล่ ใบหน้า และคอ โดยต้องเดินทางไปทำการรักษาที่ประเทศเยอรมัน แต่ผลปรากฏว่าหลังจากฉีดเฟรซเซลล์แล้ว อาการไม่ดีขึ้นตามที่ทางคลินิกอ้างสรรพคุณไว้ จึงได้เดินทางไปทีคลินิก เพื่อแจ้งว่าจะไม่ทำการรักษาต่อและขอให้ทางคลีนิกจ่ายเงินคืน1ใน 3 ของเงินที่จ่ายไปก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นจำนวน 866,666 บาท โดยทางคลินิกได้นัดที่จะคืนเงินให้ในวัน 1 ก.ย.ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลานัดทางคลินิกกลับบ่ายเบี่ยง และไม่รับโทรศัพท์
พ.ต.อ.จารุต กล่าวว่า เบื้องต้นได้ให้ทางพนักงานสอบสวนลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อรับเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยหลังจากนี้จะทำการเรียกคลินิกคู่กรณีมาทำการไกล่เกลี่ยค่าเสียหาย และให้ปากคำ อีกทั้งจะทำการตรวจสอบในส่วนของใบอนุญาตว่ามีการเปิดสถานพยาบาลถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ หากผิดกฎหมายก็จะดำเนินคดีทันที
