xs
xsm
sm
md
lg

จับเมสเซนเจอร์อ้าง ผกก.บางยี่ขัน ตุ๋นเงินเสี่ย ป.กุ้งเผา

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายเอกภพ สุขหอม หรือเป้ อายุ23 ปีผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง ตามหมายจับของ ศาลตลิ่งชัน
บก.น.7 ตามจับหนุ่มเมสเซนเจอร์ อ้างตัวเป็น ผกก.สน.บางยี่ขัน หลอกให้เสี่ย ป.กุ้งเผา โอนเงินเข้าบัญชีสูญ 2 แสน พบประวัติเป็นพนักงานเก็บเงินให้กับนิตยสารแวดวงอาชญากรรมฉบับหนึ่ง จึงรู้จักเบอร์โทร.ผู้ประกอบการร้านค้า แฝงตัวตุ๋นเหยื่อ

วันนี้ (27 ส.ค.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบก.น.7 พร้อมด้วย พ.ต.อ.วรพจน์ ชูเชิด ผกก.สน.บางยี่ขัน พ.ต.ท.ประเดิม จิตวัฒนาภิรมย์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ภวิชช์ ปานธนนันท์ สว.สส.สน.บางยี่ขัน ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายเอกภพ สุขหอม หรือเป้ อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาในฉ้อโกง ตามหมายจับของศาลตลิ่งชัน ที่ 440/2557 ลงวันที่ 16 มิถุนายน 2557 โดยผู้ต้องหาเป็นอดีตเมสเซนเจอร์นิตยสารโรงพักเพื่อประชาชน โดยทำการจับกุมตัวได้ที่บริเวณปากซอยวงศ์สว่าง 19 ถ.วงศ์สว่าง แขวงและเขตบางซื่อ กทม.

พ.ต.อ.วรพจน์กล่าวว่า ตนเป็นหนึ่งในผู้เสียหายที่โดนแอบอ้างและขอเรียกเงินจากผู้ประกอบการจำนวน 200,000 บาท ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเมื่อประมาณวันที่ 25 เม.ย. ที่ผ่านมา นายเอกภพได้โทรศัพท์ไปหานายณรงค์ แซ่อุ่ย อายุ 46 ปี เจ้าของร้าน ป.กุ้งเผา ถ.บรมราชชนนี อ้างว่าเพิ่งย้ายมาเป็น ผกก.สน.บางยี่ขันใหม่ ต้องการใช้เงินจำนวน 200,000 บาท และบอกให้นำเงินมาให้ที่ สน.บางยี่ขัน ทางผู้เสียหายก็ไม่เคยพบปะและพูดคุยกับตนมาก่อน และต่อมาผู้เสียหายได้เตรียมเงินสดมาจำนวน100,000 บาท และเตรียมที่จะนำมาให้ที่ สน.บางยี่ขัน โดยนายเอกภพอ้างทางโทรศัพท์ว่าตอนนี้กำลังออกไปตรวจพื้นที่ ให้โอนเข้ามาในบัญชีดีกว่า ทางผู้เสียหาย จึงได้โอนเงินไปให้ก่อนจำนวน 100,000 บาท ต่อมานายเอกภพโทร.หาผู้เสียหาย อีกว่าต้องการเงินเพิ่มอีกเนื่องจากยังไม่ครบ 200,000 บาท ผู้เสียหายก็ได้โอนเงินอีกครั้งจำนวน 100,000 บาท รวมเป็น 200,000 บาท และต่อมาตนได้ออกตรวจพื้นที่ในเขตรับผิดชอบ ได้พบกับนายณรงค์ ผู้เสียหาย และมีการพูดคุยกัน นายณรงค์ได้สอบถามตนว่าเงินได้รับพอหรือไม่ จึงได้ตอบไปว่าเงินอะไร ตนไม่ทราบเรื่อง นายณรงค์จึงได้เล่าเรื่องดังกล่าวให้ฟัง จากนั้นจึงให้นายณรงค์เข้าแจ้งความร้องทุกข์ กระทั่งทำการจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ในเวลาต่อมา

พ.ต.อ.วรพจน์กล่าวอีกว่า สำหรับการตรวจสอบประวัตินายเอกภพ ทราบว่าอดีตเคยทำงานเป็นพนักงานเก็บเงินให้นิตยสารชื่อโรงพักเพื่อประชาชน ที่ จ.สมุทรปราการ และได้ลาออกมาได้ 1 ปี รู้จักเบอร์ของผู้ประกอบการร้านค้าเป็นอย่างดี เพราะมีหน้าที่ต้องไปเก็บเงิน เนื่องจากร้านค้าหรือเจ้าของธุรกิจมักจะเป็นสปอนเซอร์ลงโฆษณาให้นิตยสารดังกล่าว และเคยมีประวัติไปขอเงินผุ้ประกอบธุรกิจที่ จ.ราชบุรี โดยร่วมกับพวกอีก 3 คน ขอเงินสนับสนุนจำนวน 500,000 บาท ในครั้งนั้นนายเอกภพมีการชดใช้เงินกับทางผู้เสียหาย คดีจึงได้ระงับลง

นายเอกภพให้การรับสารภาพว่า ที่ทำไปเพราะต้องใช้เงินในการเลี้ยงลูกที่เพิ่งคลอดออกมา และที่รู้จักวิธีการทำแบบนี้เนื่องจากจะรู้จักกับผู้ประกอบการจำนวนหลายคน เนื่องจากตนเป็นพนักงานเก็บเงินและมีหน้าที่จะต้องคอยเก็บเงินกับผู้ประกอบการที่ลงโฆษณาในหนังสือ หลังจากที่ออกมาจากนิตยสารก็ยังมีเบอร์โทรศัพท์ของผู้ประกอบการอยู่จึงอาศัยช่องทางในการหาเงินเพราะเป็นการที่ได้เงินมาง่าย อีกอย่างหนึ่งทางผู้ประกอบการก็จะเกรงใจไม่กล้าที่จะสอบถามว่าเป็นใคร


ผุ้เสียหายชี้ตัว
กำลังโหลดความคิดเห็น