AP ตอกย้ำผู้นำพัฒนาคอนโดเนียมในเมือง จับมือมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป เตรียมเซ็นสัญญาเล่มใหม่ เปิดคอนโดฯ โครงการที่ 4 มูลค่า 3,300 ล้านบาท หลังบอร์ดมีมติอนุมัติร่วมทุนพัฒนาคอนโดฯ ต่อเนื่อง หลัง 3 โครงการร่วมทุนก่อนหน้า ยอดขายไปได้สวย ตั้งเป้าเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยการนำองค์ความรู้มาพัฒนาองค์กร และนำไปสู่การพัฒนาที่อยู่อาศัยในไทยให้ดียิ่งขึ้น เตรียมพร้อม 18 สิงหาคมนี้ ลงนามในสัญญาอย่างเป็นทางการ พร้อมเดินหน้าเปิดขายกลางตุลาคมนี้
คุณอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แม้ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา จะมีหลากหลายปัจจัยที่กระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค แต่ในทางกลับกัน บริษัทฯ ได้รับความเชื่อมั่นจากบริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป (Mitsubishi Estate Group) องค์กรพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่มีมูลค่าสินทรัพย์เป็นอันดับหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ร่วมลงนามในสัญญาร่วมทุนเพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม 3 โครงการใหญ่ ได้แก่ RHYTHM อโศก II RHYTHM สุขุมวิท 36-38 และ Aspire รัชดา-วงศ์สว่าง มูลค่ากว่า 7,150 ล้านบาท ซึ่งได้เปิดขายไปแล้วเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สามารถดำเนินงานได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ด้วยมูลค่ายอดขายรวมกว่า 3,700 ล้านบาท
ล่าสุด เพื่อสานต่อการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับทาง มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป (Mitsubishi Estate Group) วันนี้ (13 สิงหาคม 2557) คณะกรรมการบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) มีมติอนุมัติการเข้าร่วมทุน (Joint Venture) กับ มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป (Mitsubishi Estate Group) โดยจะเข้าทำสัญญาร่วมทุนกับบริษัทในเครือ มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป โดยการลงนามในสัญญาร่วมทุนครั้งใหม่นี้จะมีขึ้นในวันที่ 18 สิงหาคม 2557 เพื่อพัฒนาคอนโดมิเนียมร่วมกัน จำนวน 1 โครงการ ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวประมาณช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งการร่วมทุนอย่างต่อเนื่องในครั้งนี้ ถือเป็นการตอกย้ำภาพการเป็นพันธมิตรระยะยาวระหว่าง AP และ มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป ตลอดจนความเชื่อมั่นในความเป็นมืออาชีพ และบรรษัทภิบาลขององค์กร และภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศในสายตานักลงทุนชาวญี่ปุ่น ซึ่งจะร่วมกันพัฒนาผ่าน บริษัท พรีเมี่ยม เรสซิเดนซ์ จำกัด อันเป็นบริษัทย่อยซึ่งเดิมบริษัทฯ ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 99.99 และหลังจากการลงนามครั้งนี้ บริษัทจะถือหุ้นในอัตราส่วนร้อยละ AP 51% : บริษัทในเครือ มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป 49%
“การผสานความร่วมมือทางธุรกิจกับพันธมิตรต่างชาติ ถือเป็นอีกยุทธศาสตร์หนึ่งในการดำเนินธุรกิจสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านกระบวนการ แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องของการบริหารจัดการโครงการ กระบวนการก่อสร้าง และนวัตกรรมการออกแบบพื้นที่ใช้สอยทั้งภายใน-ภายนอก เพื่อเพิ่มศักยภาพขององค์กร ตลอดจนบุคลากรภายใน โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การผสานองค์ความรู้อย่างต่อเนื่องในครั้งนี้จะส่งต่อการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยของ AP ให้มีดียิ่งๆ ขึ้นไป” คุณอนุพงษ์ กล่าวเสริม