ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ปปง.และ ป.ป.ส.ผสานกำลังบุกทลายแหล่งพักยาเสพติดเมืองลพบุรี

ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ปปง.และ ป.ป.ส. ผสานกำลังกว่า 667 นาย บุกค้น 62 เป้าหมายกวาดล้างแหล่งพักยาเสพติดในลพบุรี รวบผู้ต้องหายาเสพติด 23 ราย ครอบครองอาวุธปืน 3 ราย เผย จนท.รัฐในพื้นที่ถูกร้องเรียนพัวพันยาคดีเสพติด

วันนี้ (17 ส.ค.) เวลา 10.30 น. นายธนาคม จงจิระ ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี พล.ต.ชัยกร ประเสริฐสุข ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 13 พร้อมด้วย พ.อ.กันต์ชัย ประจวบอารีย์ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ พ.ท.ยุทธนา สุนทรมณี ผู้บังคับการกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 31 รักษาพระองค์ พล.ต.ต.สมจิตร กาญจนะสันเทียะ ผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 ร.ต.อ.หญิง สุวนีย์ แสวงผล รองเลขาธิการคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงผลปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่การค้ายาเสพติดในพื้นที่ ต.เพนียด อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี โดยกระจายกำลังปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายผู้ค้ายาเสพติด 62 ราย ผลการปฏิบัติการพบผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด 23 ราย และ พ.ร.บ.อาวุธปืน 3 ราย

จากปฏิบัติการการข่าวพบว่า เป้าหมายส่วนใหญ่ในพื้นที่ตำบลเพนียด เป็นผู้ค้ายาเสพติดรายย่อย และผู้เสพหรือผู้ติดยาเสพติด มีลักษณะสลับกันขายและดูต้นทาง หากมีหน่วยงานรัฐหรือคนแปลกหน้าต่างถิ่นเข้าไปในหมู่บ้าน ต้นทางทางเข้าหมู่บ้านจะรายงานเข้าไปในหมู่บ้าน ทำให้เครือข่ายนักค้ายาเสพติดสามารถหลบหนีการตรวจค้น และการจับกุมได้แทบทุกครั้ง นอกจากนี้ยังพบว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐบางรายมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ในห้วงเวลาที่ผ่านมาศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดลพบุรี และสำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 1 ได้รับแจ้งข้อมูลและเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการแพร่ระบาดยาเสพติด ในพื้นที่ฯ ผ่านสายด่วน 1386 จำนวนมาก

ทั้งนี้ ในการปฏิบัติการดังกล่าวนั้นเป็นการผสานกำลังระหว่างเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ทหารโดยมณฑลทหารบกที่ 13 กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 31 รักษาพระองค์ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.และ ปปง.รวม 667 นาย เข้าควบคุมพื้นที่การค้าฯ ในระดับชุมชน โดยเข้าปิดล้อมตรวจค้น 62 เป้าหมาย ในพื้นที่ตำบลเพนียด อำเภอโคกสำโรง ที่สำนักงาน ป.ป.ส.ได้ตรวจสอบประวัติแล้วว่ามีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เป็นพื้นที่ที่ซ่องสุมมือปืน และอดีตมือปืน รวมทั้งมีบ้านพักของนางกลอย บุญเมฆ ผู้ถูกซัดทอดคดียาบ้า 2,000 เม็ด เมื่อปี 2556 ซึ่งเป็นเหตุให้นายตำรวจคนหนึ่งตัดสินใจฆ่าตัวตายเพราะถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการรับสินบน 4 ล้านบาทเมื่อครั้งยังรับผิดชอบคดีดังกล่าว เป็นหนึ่งในบ้านเป้าหมายด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปฏิบัตการครั้งนี้สามารถจับกุมผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด 23 ราย แบ่งเป็นผู้เสพ 22 ราย และข้อหาครอบครอง/ครอบครองเพื่อจำหน่าย 1 ราย นอกจากนี้ยังสามารถจับกุมผู้ครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาตอีก 3 ราย พร้อมของกลางเป็นยาบ้ากว่า 100 เม็ด อาวุธปืนและเครื่องกระสุน อุปกรณ์เสพ โฉนดที่ดิน และเงินสดพร้อมสมุดบัญชีจำนวนหนึ่ง

นายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต เลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าวว่า ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการดำเนินการตามนโยบายของ คสช. ที่มอบให้สำนักงาน ป.ป.ส.บูรณาการการแก้ไขปัญหายาเสพติดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยวันนี้เราได้ผสานกำลังกับทั้งทหาร ฝ่ายปกครอง ปปง. และตำรวจ ดำเนินการปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่ เพราะสืบทราบว่ากลุ่มนักค้ายาเสพติดมักใช้พื้นที่เหล่านี้ในการเก็บพักยาเสพติดรอเวลานำเข้าจำหน่ายในพื้นที่ชั้นใน สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ส่วนผู้เสพทั้งหมดจะถูกส่งเข้ารับการบำบัดรักษาในค่ายบำบัดอำเภอโคกสำโรง และค่ายบำบัดที่จังหวัดปราจีนบุรี

ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ส.วางแผนเตรียมปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายในหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอด 2 เดือนนี้ ทั้งในกรุงเทพมหานคร และจังหวัดใกล้เคียง เพื่อลดความเดือดร้อนแก่ประชาชนและสังคมให้ได้มากที่สุด