ตำรวจติดตามจับกุม “สุรกริช ชัยมงคล” มือปืนยิง “สุทิน ธราทิน” แกนนำ กคป.เสียชีวิตที่บางนาได้แล้วเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ที่บ้านพักย่านพระประแดง เบื้องต้นให้การภาคเสธ รับเป็นเจ้าของปืนจริงแต่ไม่ใช่คนยิง
วันนี้ (9 ก.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นางสาโรจน์ ธราทิน มารดานายสุทิน ธราทิน แกนนำกลุ่มกองทัพประชาชนและเครือข่ายปฏิรูปพลังงานไทย (กคป.)พร้อมด้วยนายทศพล แก้วทิมา แกนนำ กคป.เดินทางเข้าพบและมอบดอกไม้ขอบคุณ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ด้านป้องกันปราบปรามอาชญากรรม พล.ต.ท.ชัยยง กีรติขจร พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และคณะพนักงานสอบสวน หลังจากมีการออกหมายจับและจับกุมมือยิงนายสุทินได้ พร้อมกันมีการนำหลักฐานยืนยันว่านายธวัชชัย พรหมจันทร์ ที่ถูกออกหมายจับก็เป็นแกนนำ กปท.และไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์
พล.ต.ท.ชัยยงเปิดเผยว่า ล่าสุดตำรวจสามารถจับกุมนายสุรกริช ชัยมงคล ผู้ต้องหาร่วมกันยิงนายสุทินเสียชีวิตระหว่างขึ้นรถปราศรัยต่อต้านการเลือกตั้งย่านบางนา ช่วงเหตุชุมนุม กปปส.ที่ผ่านมาได้แล้ว โดยศาลได้อนุมัติหมายจับนายสุรกริชเมื่อวานนี้ (8 ก.ค.) และล่าสุดเมื่อเวลา 05.00 น.ตำรวจตามจับกุมได้ที่บ้านพักใน อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จากพยานหลักฐานเชื่อได้ว่านายสุกิจเป็นมือปืนที่ยิงนายสุทิน แต่จากการสอบสวนเบื้องต้นให้การภาคเสธ รับเป็นเจ้าของอาวุธปืน แต่ไม่รับว่าเป็นคนยิง ตอนนี้ควบคุมตัวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าวว่า การออกหมายจับนายสุรกริชเนื่องจากชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุและนำภาพวงจรปิด ภาพถ่ายที่มีมาดูซ้ำ ตนดูประมาณ 20 รอบพบว่าวิถีการยิงจากข้างล่างขึ้นบน กระสุนเข้าทางใต้ราวนมขวาเฉียงขึ้นทะลุศีรษะเป็นรูใหญ่ ตรวจสอบพบใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม.ยิงระยะใกล้ไม่เกิน 20 เมตร จึงจำกัดวงคนร้ายต้องอยู่ในระยะรัศมี 20 เมตรรอบตัวนายสุทิน ทำให้ตัดคนที่อยู่นอกรัศมีออกได้ นอกจากนี้ พบหัวกระสุน 2 หัว และปลอกกระสุน 4 ปลอก ขนาด 11 มม.ทั้งหมด จึงนำไปตรวจเปรียบเทียบกับอาวุธปืนที่เคยใช้ก่อเหตุในระบบของตำรวจ ก็ไปตรงกับปืนกระบอกหนึ่งซึ่งมีนายสุรกริชเป็นผู้ครอบครองและเคยถูกจับกุมข้อหาครอบครองอาวุธปืนก่อนหน้านี้
จากนั้นตรวจสอบจากประจักษ์พยานซึ่งเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์นี้ยืนยันภาพในที่เกิดเหตุว่าเห็นนายสุรกริชอยู่ในจุดเกิดเหตุในระยะ 3 เมตร จึงนำไปสู่การขออนุมัติหมายจับและจับกุมได้ในวันนี้ ทั้งนี้เบื้องต้นเชื่อว่านายสุรกริชที่เป็นเจ้าของปืนเป็นผู้ยิงนายสุทิน โดยการสืบสวนทราบว่านายสุรกริชเป็นกลุ่มแนวร่วมฝ่ายตรงข้ามของนายสุทินด้วย อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีการอนุมัติหมายจับเพิ่มเติม