บช.น.เผยผลบังคับห้ามใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับขี่รถวันแรก ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ บก.น.1-9 สามารถจับกุมผู้ที่ฝ่าฝืนได้ทั้งสิ้น 38 ราย คาดว่าทั้งวันจะมีไม่ต่ำกว่า 100 ราย โดยเจ้าหน้าที่จะบันทึกภาพผู้กระทำความผิดก่อนจะเข้าไปเปรียบเทียบปรับ
วันนี้ (5 ส.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น. เปิดเผยภายหลังจากที่จัดมาตรการจับจริงจอมแชตว่า ได้เริ่มปฏิบัติจริงตั้งแต่วันนี้เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป โดยสั่งการให้ทุกสถานีตำรวจในพื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1-9 และรองผู้บังคับการจราจร เข้ามาดูแลในแต่ละจุดที่รับผิดชอบทั้ง 90 จุด ส่งผลให้มีการจับกุมเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา 38 ราย ประกอบด้วย แยกซังฮี้ สน.สามเสน 6 ราย, แยกบางลำพู สน.ชนะสงคราม 8 ราย, แยกประชานุกูล สน.ประชาชื่น 4 ราย, แยกรัชโยธิน สน.พหลโยธิน 8 ราย, แยกอโศก สน.ทองหล่อ 2 ราย, แยกราชประสงค์ สน.ลุมพินี 6 ราย, แยกสามย่าน สน.ปทุมวัน 2 ราย และแยกสาทร-สุรศักดิ์ สน.ยานนาวา 2 ราย ส่วนในพื้นที่ที่ไม่ได้ลงตรวจ คาดว่ามีผู้กระทำความผิดไม่ต่ำกว่า 100 ราย และมีอัตราโทษปรับ 400-1,000 บาทต่อราย เป็นการเริ่มปฏิบัติการจับจริงจอมแชต จะปรับขั้นต่ำ 400 บาทต่อราย ส่วนการลงพื้นที่ไปตรวจสอบนั้น เจ้าหน้าที่จะมีการบันทึกภาพผู้กระทำความผิด ก่อนจะเข้าไปพูดคุยและทำการเปรียบเทียบค่าปรับแล้วปล่อยตัว และมีบางแยกที่เข้าไปปฏิบัติงานยากพอสมควรเนื่องจากพื้นที่การจราจรค่อนข้างกว้าง และมีรถสัญจรมาก เจ้าหน้าที่จะต้องประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปล่อยสัญญาณจราจรก่อนถึงจะลงพื้นที่ปฏิบัติการจับจริงจอมแชทได้
พล.ต.ต.อดุลย์กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้อัปโหลดข้อมูลการจับจริงจอมแชตไว้ในเว็บไซต์ของ บก.จร. สามารถดูรายละเอียดได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป รวมทั้งมาตรการ 5 จริง 5 จอม สามารถตรวจสอบได้ในเว็บเดียวกัน สืบเนื่องมากจากมาตรการดังกล่าวมีการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ประชาชนที่ใช้รถมีความระมัดระวังมากขึ้นและมีผลการจับกุมลดน้อยลง
ทั้งนี้ จากภาพโดยรวมการวางมาตรการจับกุมที่ผ่านมาทั้งหมด ส่งผลให้มีการจราจรคล่องตัวมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะจุดสำคัญที่มีการจราจรหนาแน่น ใช้เวลาเคลื่อนตัวกว่า 1 ชั่วโมง สามารถเคลื่อนตัวได้ดีกว่าเดิม 20-30 นาที
