ตร.ทองหล่อรวบโจ๋ลอบขายยาเคให้นักเที่ยวซอยทองหล่อ

ตำรวจทองหล่อ จับโจ๋ลอบขายยาเคให้นักเที่ยวในสถานบันเทิง ซอยทองหล่อ สอบสวนผู้ต้องหาสารภาพรับยาเสพติดมาจากนักโทษเรือนจำสมุทรสาคร

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (19 ก.ค.) พ.ต.อ.ชูตระกูล ยศมาดี ผกก.สน.ทองหล่อ พร้อมด้วย พ.ต.ท.วิชัย ณรงค์ รอง ผกก.สส.สน.ทองหล่อ ร.ต.อ.ภานุภัทร กิตติพันธ์ สว.สส. และ ร.ต.อ.นพดล การชะนะไชย รอง สว.สส. ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัว นายรณชัย จริโอภาส อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาในคดีเกี่ยวกับยาเสพติด พร้อมของกลางยาเคตามีนชนิดผง บรรจุในธนบัตร 20 บาท ยาเคตามีนชนิดน้ำ 35 ขวด ยาอีรีมีนไฟท์ 5 แผง และโทรศัพท์ไอโฟน 5 จำนวน 1 เครื่อง โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่ลานจอดรถอารีน่าเท็น ทองหล่อซอย 10 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา

พ.ต.อ. ชูตระกูล ผกก.ทองหล่อ กล่าวว่า ตำรวจทราบว่านายรณชัย เป็นค้ายาเสพติด ยาไอซ์ ยาเคตามีน ให้บรรดานักท่องเที่ยวในสถานบันเทิงย่านทองหล่อ จากนั้นกลางดึกของวันที่ 18 ก.ค. ร.ต.อ.นพดล พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน พบนายรณชัย เดินทางมาเที่ยวสถานบันเทิง ภายในทองหล่อซอย 10 ท่าทีมีพิรุธจึงขอเข้าตรวจค้นพบของกลางขวด ยาเคตามีนชนิดผง บรรจุในธนบัตร 20 บาท

จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้ไปตรวจสอบที่บ้านพัก เลขที่ 279/52 ช ถนนสุทธิวาตวิถี ต.ท่าฉลอม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นบ้านพักของนายรณชัย พบของกลางยาเคตามีนชนิดน้ำ 35 ขวด ซุกซ่อนไว้บริเวณอ่างล้างจานของบ้านหลังดังกล่าว ก่อนรวบรวมไว้เป็นหลักฐานก่อนนำตัวมาสอบสวนที่ สน.ทองหล่อ

ร.ต.อ.นพดล กล่าวว่า จากการสอบสวน นายรณชัย ให้การยอมรับสารภาพว่า ยาทั้งหมดเป็นของตนจริง และรับมาจากนายแบงค์ (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) ซึ่งขณะนี้ต้องโทษอยู่ในเรือนจำสมุทรสาคร โดยทุกครั้งนายแบงค์ มักจะโทรศัพท์ติดต่อกับตนว่าจะมีการนำสินค้าไปวางไว้ที่จุดใด ก่อนจะให้ นายซัน (ไม่ทราบชื่อ-สกุล จริง) เป็นผู้นำยาเสพติดมาวางตามจุดที่ได้นัดหมายกัน ภายในจังหวัดสมุทรสาคร จากนั้นตนจะนำยาเสพติดมาชักชวนบรรดาไฮโซที่ชื่อชอบการจัดปาร์ตี้เสพยาเสพติดกันตามบ้านพัก และตนจะร่วมเสพยาเสพติดด้วย นอกจากนี้ ยาเสพติดบางส่วนจะนำไปแบ่งขายให้นักท่องเที่ยวตามสถานบันเทิงย่านทองหล่อ หลังจากนั้นจะนำเงินที่ได้ไปซื้อยาเสพติดมาเสพ และเที่ยวเตร่ ทั้ง นี้ตนเพิ่งทำลักษณะนี้มาเพียง 3 เดือน เนื่องจากรายได้ดี และไม่มีงานทำ เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อต่อคำให้การ ซึ่งต้องทำการสอบปากคำเพิ่มเติม และทำการขยายผลผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าวให้ได้

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหามีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป