xs
xsm
sm
md
lg

ปส.แถลงจับยาเสพติดบิ๊กล็อต 3 คดี มูลค่ากว่า 50 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ผบช.ปส. แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดจำนวน 3 คดี พร้อมของกลางยาเสพติดจำนวนมากมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท

เมื่อเวลา 14.00 น. วันพุธนี้ (30 ก.ค.) พล.ต.ท.สุรพล ทวนทอง ผบช.ปส. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อาชวันต์ โชติกเสถียร รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.ศุภกิจ ศรีจันทรนนท์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง ผบก.ปส.3 แถลงข่าวจับกุมเครือข่ายยาเสพติด จำนวน 3 คดีผู้ต้องหาจำนวน 3 คน พร้อมของกลางยาเสพติดมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท
คดีที่แรก

เจ้าหน้าที่ทำการจับกุม นายสรายุทธ์ เจนเชี่ยวชาญ อายุ 35 ปี หรือ ตัก พร้อมของการยาไอซ์ จำนวน 750 กรัม กระเป๋าเดินทาง 1 ใบ โดยจับกุมได้เมื่อวันที่ 29 ก.ค. เวลาประมาณ 02.00 น. ที่บริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ

พล.ต.ท.สุรพล กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สืบทราบว่ามีกลุ่มซึ่งเป็นแรงงานไทยที่จะเดินทางไปรับจ้างปลูกผักที่โมชาพฮาดเซวา ที่ประเทศอิสราเอล นำยาเสพติดจากประเทศไทยไปขายที่อิสราเอล ซึ่งจะเดินทางโดยอิสราเอลแอร์ไลน์ส วันที่ 29 ก.ค. ต่อมาวันเวลาดังกล่าวเจ้าหน้าที่พบ นายสรายุทธ์ เดินทางมาเช็กอิน เจ้าหน้าที่จึงได้เชิญตัวมาเพื่อตรวจสัมภาระ จากการตรวจสอบพบยาไอซ์ซุกซ่อนในซองบุหรี่ “กรองทิพย์” จำนวน 11 ซอง ใส่กระเป๋าเดินทาง ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 26 ล้านบาท

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และพยายามส่งออกยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในความครอบเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต

คดีที่ 2
เจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมตัว นายทองสุข ศรีทนต์ อายุ 40 ปี พร้อมของกลาง ยาบ้า 15,900 เม็ด โดยจับกุมได้ที่บริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ วันที่ 29 ก.ค. เวลาประมาณ 02.00 น.

พล.ต.ต.อาชวันต์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สืบทราบว่ามีกลุ่มซึ่งเป็นแรงงานไทยที่จะเดินทางไปรับจ้างปลูกผักที่โมชาพฮาดเซวา ที่ประเทศอิสราเอล นำยาเสพติดจากประเทศไทยไปขายที่อิสราเอล ซึ่งจะเดินทางโดยอิสราเอลแอร์ไลน์ส วันที่ 29 ก.ค. ต่อมาวันเวลาดังกล่าวเจ้าหน้าที่พบ นายทองสุข เดินทางมาเช็กอิน จึงเชิญตัวมาเพื่อสอบสัมภาระ ตรวจค้น พบของกลางยาบ้าใสซองกาแฟซุกซ่อนในกระเป๋าเดินทางจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่าได้รับค่าจ้างครั้งละ 1 แสนบาท

พล.ต.ท.สุรพล กล่าวว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่เชื่อว่าจะมีนำการขนยาไปขายที่ประเทศอิสราเอลเป็นจำนวนมาก ซึ่งจากการประเมินของทางการอิสราเอลตั้งแต่เดือนธันวาคม 55 - มกราคม 56 พบว่ามูลค่ายาส่งออกว่า 48 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่ผู้ต้องหาให้การว่านำไปขายให้กับคนงานเท่านั้น แต่ทางการอิสราเอลเป็นห่วงว่าต่อไปจะแพร่ไปสู่ประชาชนในประเทศ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และพยายามส่งออกยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต

คดีที่ 3
เจ้าหน้าที่ทำการจับกุมตัว น.ส.ปทิตตา เจเตาะ อายุ 36 ปี พร้อมด้วยของกลางยาไอซ์ หนัก 168 กรัม โดยจับกุมได้ที่บริเวณท่าอากาศยานกรุงเทพ (ดอนเมือง) วันที่ 29 ก.ค. เวลาประมาณ 10.30 น.

พล.ต.ต.ภาณุเดช กล่าวว่า ทางสายลับได้แจ้งว่าจะมีหญิงสาวชาวไทย ไม่ทราบชื่อนามสกุล ลักลอบขนยาไอซ์ เดินทางมากับสายการบินแอร์เอเชีย จากท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวางแผนจับกุม โดยในวันเวลาที่เกิดเหตุพบนางสาวปทิตตา ซึ่งเป็นชาวเขา มีลักษณะตรงกับผู้ต้องสงสัย จึงขอตรวจค้นแต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย หลังจากนั้น นางสาวปทิตตา ให้การว่าซุกซ่อนยาไว้ในช่องคลอดของตัวเอง จึงให้ตำรวจหญิงตรวจค้นจนพบยาไอซ์ 1 ก้อน ห่อหุ้มด้วยถุงยางอนามัย จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน จากนั้น นางสาวปทิตตา ยังให้การต่อว่าได้รับการว่าจ้างจากคนไทยไม่ทราบชื่อให้ส่งยาครั้งละ 30,000 บาท โดยจะมีลูกค้ามารอรับ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย





กำลังโหลดความคิดเห็น