จ่อเชือด! ดาบตำรวจทำร้ายสาวบนโรงพัก

ผกก.ลาดกระบัง ยันจะลงโทษทางวินัยดาบตำรวจทำร้ายร่างกายหญิงสาวบนโรงพัก ฐานเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมต่อประชาชน หลังเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า Little Dinosauregg ที่ระบุว่า “กูเมาเข้าด่าน เพื่อนมาประกันกู ตำรวจ สน.ลาดกระบัง ตีเพื่อนกู” แชร์ว่อน

จากกรณีที่มีผู้โพสต์คลิปวิดีโอผ่านทางเฟซบุ๊ก ในเว็บเพจ youlike (คลิปเด็ด) มีผู้โพสต์คลิปโดยใช้ชื่อว่า ตำรวจ “ทำร้าย” ประชาชน โดยนำมาจากเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า Little Dinosauregg ที่ระบุว่า “กูเมาเข้าด่าน เพื่อนมาประกันกู ตำรวจ สน.ลาดกระบัง ตีเพื่อนกู” ซึ่งถูกบันทึกโดยผู้หญิงที่อ้างว่าโดนตำรวจทำร้าย จำนวน 2 คลิป โดยคลิปแรก นั้นเห็นหน้าเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวอย่างชัดเจน ก่อนที่โทรศัพท์จะตกลงไปที่พื้น และคลิปที่สอง ถูกบันทึกผ่านทางห้องขัง คาดว่าเป็นของผู้ที่โดนจับในข้อหาเมาแล้วขับ พบว่าเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวใช้มือกดไปที่ศีรษะของหญิงสาวที่ถูกทำร้าย จนกระทั่งล้มลงไปนอนกับพื้น ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวจะเดินออกนอกห้องไป

พ.ต.อ.คมสัน แตงจุ้ย ผกก.สน.ลาดกระบัง กล่าวว่า ได้เห็นคลิปดังกล่าวแล้ว โดยในขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่จากการสอบถามในเบื้องต้นทราบว่า ตำรวจคนดังกล่าว มียศ นายดาบตำรวจ ซึ่งทำหน้าที่เป็นเสมียนประจำวัน โดยได้ออกเวรไปตั้งแต่ 00.00 น. แต่มีอุบัติเหตุรถชน ทำให้ ด.ต. คนดังกล่าวยังคงอยู่ที่สถานี โดยทางกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) ได้ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ในย่านลาดกระบัง โดยได้พบผู้กระทำผิด ก่อนที่จะนำตัวมาฝากขังที่ สน.ลาดกระบัง พร้อมทั้งมีเพื่อนสาวของผู้ต้องหาเดินทางมาประกันตัว ซึ่งใช้วาจาไม่สมควรกับเจ้าหน้าที่ ก่อนที่จะพยายามเข้าไปยังในส่วนของห้องขัง ซึ่งขณะนั้นหมดเวลาในการเข้าเยี่ยมผู้ต้องขังแล้ว ทางเจ้าหน้าที่จึงไม่อนุญาตให้หญิงสาวคนดังกล่าวเข้าเยี่ยม จึงมีการดึง และยื้อยุดฉุดกระชากกันเกิดขึ้น เพื่อไม่ให้หญิงคนดังกล่าวเข้าไปในห้องขัง อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายจะมีการลงบันทึกประจำวัน แจ้งความไว้เป็นหลักฐานกับทางพนักงานสอบสวน ในข้อหาทำร้ายร่างกาย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ให้ใบบันทึกผลรับรองแพทย์เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายนำไปตรวจร่างกาย สำหรับใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดี

โดยช่วงที่เกิดเหตุนั้นเป็นเวลาประมาณ 02.30 น. ของวันที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา พ.ต.อ.คมสัน กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้ให้ทางหัวหน้าพนักงานสอบสวน เขียนรายงานข้อเท็จจริงทั้งหมด พร้อมรายงานให้ตนทราบภายในช่วงเย็นของวันพรุ่งนี้ (29 ก.ค.) ซึ่งต่อจากนี้จะเรียกทั้งสองฝ่ายเข้ามาพูดคุยอีกครั้ง เพื่อสอบถามหาข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าวอย่างละเอียด ซึ่งหากพบว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจผิดจริงจะมีการลงโทษทางวินัยอย่างแน่นอน พร้อมยืนยันว่าจะไม่มีการละเว้นการลงโทษโดยเด็ดขาด เพราะการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมต่อประชาชนเป็นอย่างยิ่ง