ดีเอสไอรับคดีบ้านสวนพีระมิดเป็นคดีพิเศษแล้ว ด้าน “สงกานต์” ลั่น “อุบล” จ่อฟ้องกลับเป็นเพียงการฟ้องแก้เกี้ยวเท่านั้
จากกรณีที่ นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พร้อมด้วย นายราเชน ตระกูลเวียง อายุ 51 ปี ผู้เสียหาย ที่ต้องการรักษาโรคเบาหวาน และอาการปวดหัว โดยระบุว่าถูกหลอกให้โอนเงินรวม 11,000 บาท เข้าร้องเรียนต่อ พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่อวันที่ 3 ก.ค. ที่ผ่านมา เพื่อขอให้ตรวจสอบพฤติกรรม “บ้านสวนพีระมิด” ของนางอุบล ศุภาเดชาภรณ์ กับพวก ว่า มีการโฆษณาอวดอ้างเกินจริงในประเด็นที่ส่งผลกระทบกับสถาบันพระพุทธศาสนา ตั้งแต่ปี 2554 - 2557 หรือไม่ เนื่องจากพฤติการณ์ของนางอุบลนั้น แอบอ้างใช้รูปตัวเองและรูปจี้สฟิงซ์ โดยระบุว่าให้จ้องมองที่ภาพหรือรูปสฟิงซ์เครื่องรางแล้วจะหายจากอาการเจ็บป่วย ทุกครั้งให้ขึ้นต้นพูดว่า “อ.อุบล ช่วยด้วย” 3 ครั้ง ซึ่งเป็นรหัสจักรวาล จากนั้นขอให้พูดถึงอาการเจ็บป่วยที่เป็นอยู่แล้วจะหายทันที ไม่ว่าจะเป็นโรคร้ายแรงแค่ไหนก็หายได้ ซึ่งนางอุบลแอบอ้างรับบารมีพระศรีอาริย์ แค่เดินผ่านก็หาย หรือแค่มองรูปอาการเจ็บป่วยก็หายอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังพบพฤติกรรมอวดอ้างให้ประชาชนโอนเงินไปทำบุญในชื่อบัญชีส่วนตัวเพื่อรักษาโรค เป็นค่าเจ้ากรรมนายเวรคิดราคาอาคารละ 99 + 1 บาท โรคที่เป็นอยู่จะหายไป 1 ชั่วโมง หากไม่โอนเงินภายใน 24 ชั่วโมง อาการป่วยจะกลับมาใหม่ และต้องแก้ไขด้วยการชำระเงินเพิ่มอีก 99 เท่า นอกจากนี้ หากไปถึงบ้านสวนพีระมิดไม่ได้ ก็สามารถอธิษฐานโดยการมองภาพจากคอมพิวเตอร์ก็ได้
คืบหน้าล่าสุด วันนี้ (18 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสงกานต์ ได้เดินทางมายังดีเอสไอเพื่อมอบเอกสาร และหลักฐานเกี่ยวกับการดำเนินคดีดังกล่าวเพิ่มเติม เบื้องตันอธิบดีดีเอสไอได้มีคำสั่งรับกรณีนี้เป็นคดีพิเศษแล้ว โดยมอบหมายให้สำนักคดีความมั่นคง ดีเอสไอ ดำเนินการ
สำหรับกรณีที่ นางอุบล ศุภาเดชาภรณ์ จะฟ้องกลับนั้น นายสงกานต์ กล่าวว่า เป็นเพียงการฟ้องแก้เกี้ยว