เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์- ทางการจีนตัดสินใจ รื้อ “มหาสฟิงซ์ (เมด อิน ไชน่า)” ในเหอเป่ย ทิ้ง หลังรัฐมนตรีอียิปต์โวยเรื่องโครงสร้าง ซินหวา รายงานวานนี้ (25 พ.ค.)
“มหาสฟิงซ์ปลอม” ซึ่งลอกเลียนมาจากรูปสลักสฟิงซ์ของอียิปต์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ตั้งตระหง่านโดดเด่นอยู่บริเวณหมู่บ้านตงโก่วของเมืองสือจยาจวง มณฑลเหอเป่ยทางจีนตอนเหนือ มีขนาดฐานยาวประมาณ 80 เมตร สูง 30 เมตร สร้างขึ้นด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กเส้น และใช้เวลาเพียง 2 เดือน ในขณะที่ของเดิมทำจากหินปูนธรรมชาติก้อนใหญ่เพียงก้อนเดียว
ด้านผู้จัดทำระบุว่า “เราสร้างสรรค์มันขึ้นมาเพื่อใช้ประโยชน์ในการถ่ายทำภาพยนตร์ และอาจแปรเปลี่ยนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทำเงินในอนาคต”
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวรายงานว่า หลังจากที่จีนดำเนินการก่อสร้าง รัฐมนตรีว่าการโบราณวัตถุสถานของอียิปต์ ก็ร้องเรียนเรื่องโครงสร้างไปยังยูเนสโก หรือ องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (Unesco)
หลังจากการร้องเรียน ทางการจีนจึงตัดสินใจรื้อมหาสฟิงซ์ปลอมเจ้าปัญหาทิ้ง “ เราเคารพมรดกทางวัฒนธรรมของโลกเป็นอย่างมาก และขอแสดงความเสียใจต่อการทำให้เกิดความเข้าใจผิดใดๆ ก็ตาม” เจ้าหน้าที่ประจำอุทยานทางวัฒนธรรมชานเมืองสือจยาจวง ผู้ไม่เปิดเผยนาม ระบุ
อนึ่ง จีนถือเป็นประเทศที่ฉาวโฉ่เรื่องการลอกเลียนของอยู่แล้ว ตั้งแต่สินค้าอุปโภคบริโภคชิ้นเล็กไปจนถึงอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ จีนจำลองทั้ง อนุสรณ์สถานแห่งชาติเขารัชมอร์ หรือ เมาต์รัชมอร์ (Mount Rushmore) หอไอเฟล และหมู่บ้านออสเตรียทั้งหมู่บ้าน
ในฉงชิ่ง เมืองมหานครทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ก็มีอุทยานประดับสถาปัตยกรรมลอกเลียนแบบทั้ง รูปปั้นเดวิดของมีเกลันเจโล รูปปั้นนักคิดของโรแดง และศีรษะของประธานาธิบดีอเมริกัน 4 คน ที่รู้จักกันในนาม “สถาปัตยกรรมการลอกเลียนแบบ”
ส่วนในหังโจว ก็เป็น “แหล่งชุมนุมของหอไอเฟล สวนน้ำพุพระราชวังแวร์ซายส์ และหมู่บ้านฝรั่งเศส”
ในขณะที่ หมู่บ้านบนเทือกเขาอัลไพน์ของออสเตรีย และเป็นเขตมรดกโลกของยูเนสโก อย่างหมู่บ้านฮัลล์สตัท ก็ไม่รอด ถูกจีนยกมาไว้ในก่วงตง ทางตอนใต้ของประเทศ
“มหาสฟิงซ์ปลอม” ซึ่งลอกเลียนมาจากรูปสลักสฟิงซ์ของอียิปต์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ตั้งตระหง่านโดดเด่นอยู่บริเวณหมู่บ้านตงโก่วของเมืองสือจยาจวง มณฑลเหอเป่ยทางจีนตอนเหนือ มีขนาดฐานยาวประมาณ 80 เมตร สูง 30 เมตร สร้างขึ้นด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กเส้น และใช้เวลาเพียง 2 เดือน ในขณะที่ของเดิมทำจากหินปูนธรรมชาติก้อนใหญ่เพียงก้อนเดียว
ด้านผู้จัดทำระบุว่า “เราสร้างสรรค์มันขึ้นมาเพื่อใช้ประโยชน์ในการถ่ายทำภาพยนตร์ และอาจแปรเปลี่ยนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทำเงินในอนาคต”
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวรายงานว่า หลังจากที่จีนดำเนินการก่อสร้าง รัฐมนตรีว่าการโบราณวัตถุสถานของอียิปต์ ก็ร้องเรียนเรื่องโครงสร้างไปยังยูเนสโก หรือ องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (Unesco)
หลังจากการร้องเรียน ทางการจีนจึงตัดสินใจรื้อมหาสฟิงซ์ปลอมเจ้าปัญหาทิ้ง “ เราเคารพมรดกทางวัฒนธรรมของโลกเป็นอย่างมาก และขอแสดงความเสียใจต่อการทำให้เกิดความเข้าใจผิดใดๆ ก็ตาม” เจ้าหน้าที่ประจำอุทยานทางวัฒนธรรมชานเมืองสือจยาจวง ผู้ไม่เปิดเผยนาม ระบุ
อนึ่ง จีนถือเป็นประเทศที่ฉาวโฉ่เรื่องการลอกเลียนของอยู่แล้ว ตั้งแต่สินค้าอุปโภคบริโภคชิ้นเล็กไปจนถึงอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ จีนจำลองทั้ง อนุสรณ์สถานแห่งชาติเขารัชมอร์ หรือ เมาต์รัชมอร์ (Mount Rushmore) หอไอเฟล และหมู่บ้านออสเตรียทั้งหมู่บ้าน
ในฉงชิ่ง เมืองมหานครทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ก็มีอุทยานประดับสถาปัตยกรรมลอกเลียนแบบทั้ง รูปปั้นเดวิดของมีเกลันเจโล รูปปั้นนักคิดของโรแดง และศีรษะของประธานาธิบดีอเมริกัน 4 คน ที่รู้จักกันในนาม “สถาปัตยกรรมการลอกเลียนแบบ”
ส่วนในหังโจว ก็เป็น “แหล่งชุมนุมของหอไอเฟล สวนน้ำพุพระราชวังแวร์ซายส์ และหมู่บ้านฝรั่งเศส”
ในขณะที่ หมู่บ้านบนเทือกเขาอัลไพน์ของออสเตรีย และเป็นเขตมรดกโลกของยูเนสโก อย่างหมู่บ้านฮัลล์สตัท ก็ไม่รอด ถูกจีนยกมาไว้ในก่วงตง ทางตอนใต้ของประเทศ