กำไลไฮเทคติดตามพฤติกรรมผู้กระทำผิด

ศาลแขวงสมุทรปราการ มีคำสั่งใช้กำไล EM ต่อผู้กระทำผิดแล้ว 8 ราย 1 ใน 8 รายนั้นได้กระทำความผิดในพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรณีแท็กซี่ผี สั่งห้ามเข้าพื้นที่เป็นเวลา 5 ปี

วันนี้ (8 ก.ค.) ที่ศูนย์ควบคุมการติดตามด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ กระทรวงยุติธรรม ชั้นใต้ดิน ศูนย์ราชการ อาคารเอ นายอวิรุทธ์ ชาญชัยกิตติกร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงสมุทรปราการ พ.ต.ท.หญิง เจือทิพย์ ปลาทอง รอง ผอ.ฝ่ายบริการลูกค้า บริษัท ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมคณะ เข้าเยี่ยมและศึกษาดูการทำงานศูนย์ควบคุมติดตามด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ EM (กำไรควบคุมประพฤติ) โดยมีนายเกษม มูลจันทร์ รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม ให้การต้อนรับและพาไปดูระบบการทำงานศูนย์ฯ

นายเกษมเผยว่า กรมคุมประพฤติได้ใช้กำไร EM กับผู้กระทำผิด อาทิ ขับรถขณะเมาสุรา ขับรถโดยประมาท ให้อยู่ในบริเวณพื้นที่กำหนด และไม่ให้ออกนอกบ้านในเวลาที่กำหนด เช่น ไม่ให้ออกไปดื่มสุราในเวลากลางคืน เป็นการลดอุบัติเหตุทางท้องถนน และคืนความสุขให้กับครอบครัว หากมีการฝ่าฝืนออกนอกพื้นที่และเวลาที่กำหนด หรือพยายามทำลายเครื่องมือ EM ทางเจ้าหน้าที่จะติดต่อไปทันที และหากฝ่าฝืนอีกจะบันทึกความผิดรายงานต่อศาล

รองอธิบดีกรมคุมประพฤติกล่าวอีกว่า ในส่วนบริษัท การท่าอากาศยาน นั้นสนใจจะนำระบบ EM ไปติดตั้งในพื้นที่ เฉพาะกรณีผู้ที่กระทำความผิดภายในบริเวณท่าอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อป้องกันและปราบปรามพวกแท็กซี่ผี หรือที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามารับผู้โดยสารที่สนามบินสุวรรณภูมิ และเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทย รวมทั้งจัดระบบแท็กซี่ให้ดีขึ้นด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ที่ศาลแขวงสมุทรปราการนำเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ใช้ในการรองรับคำสั่งศาล จนถึงปัจจุบันศาลแขวงสมุทรปราการได้สั่งใช้กำไล EM ต่อผู้กระทำผิดแล้ว 8 ราย ซึ่ง 1 ใน 8 รายนั้นได้กระทำความผิดในพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรณีแท็กซี่ผี โดยศาลได้สั่งเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา ห้ามผู้กระทำผิดดังกล่าวเข้าเขตพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นเวลา 5 ปี สั่งคุมประพฤติ 3 ปี และใส่เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์เป็นเวลา 3 เดือน