ไฟไหม้บ้านเช่าในซอยเจริญนคร 58 วอด 10 หลังคาเรือน ก่อนลุกลามไปยังโกดังเก็บของ ตำรวจคาดสาเหตุไฟฟ้าลัดวงจร พบต้นเพลิงเกิดจากร้านทำเบาะ แต่โชคดีไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต
เมื่อเวลา 08.00 น.วันนี้ (1 ก.ค.) ร.ต.ท.วัชรพงศ์ ฉัตรธนเกียรติ พนักงานสอบสวน สน.สำเหร่ รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ภายในซอยเจริญนคร 58 แยก 2 ถนนเจริญนคร แขวงสำเหร่ เขตธนบุรี กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.สุรวุฒิ แสงรุ่งเรือง ผกก.สน.สำเหร่ และประสานรถน้ำจากสถานีดับเพลิงปากคลองสานจำนวน 5 คัน และเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุภายในซอยเจริญนคร 58 แยก 2 ถนนเจริญนคร เป็นบ้านเช่าปลูกด้วยไม้ติดกันประมาณ 10 หลังคาเรือน พบกลุ่มควันและแสงเพลิงพวยพุ่งออกมาจากบ้านไม้ 2 ชั้น เลขที่ 184/57 ก่อนลุกลามไปยังบ้านใกล้เคียงที่อยู่ติดกันอีก 8 หลังเสียหายทั้งหมด นอกจากนี้ เพลิงยังลุกไหม้ไปยังอาคารพาณิชย์เลขที่ 180 ความสูง 3 ชั้นปลูกติดกัน โดยเริ่มลุกไหม้ที่บริเวณชั้น 3 ของอาคารดังกล่าวจนได้รับความเสียหาย
ทั้งนี้ ซอยดังกล่าวเป็นซอยแคบทำให้รถน้ำขนาดใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงได้ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฯ จึงทำการตัดไฟก่อนที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจะลากสายยางเพื่อระดมฉีดน้ำไปยังบ้านที่เกิดเพลิงไหม้ ท่ามกลางชาวบ้านที่ช่วยกันขนของวิ่งหนีกันอย่างอลหม่าน โดยใช้เวลาประมาณ 45 นาทีจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
จากการสอบถามนายประมุข ศรีคำ อายุ 50 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 184/50 กล่าวว่า ตนพักอยู่ใกล้กับบ้านต้นเพลิง เมื่อช่วงเช้าออกมานั่งกินกาแฟที่ร้านหน้าบ้าน และเห็นควันสีดำและแสงไฟออกมาจากบ้านเลขที่ 184/57 จึงรีบวิ่งมาดูทำให้รู้ว่าเกิดเพลิงไหม้จึงตะโกนให้ลูกๆ ช่วยกันนำแมวเปอร์เซียกว่า 20 ตัวที่เลี้ยงไว้ออกจากบ้าน โดยที่ไม่ทันเก็บข้าวของหรือเสื้อผ้าออกจากบ้านเลยแม้แต่ชิ้นเดียว
พ.ต.อ.สุรวุฒิกล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า บ้านเลขที่ 184/57 บ้านต้นเพลิงเป็นของนายไกรศักดิ์ แก่นนาคำ อายุ 50 ปี ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้เชิญตัวไปสอบปากคำที่ สน.สำเหร่ เบื้องต้นทราบว่านายแก่นศักดิ์ทำบ้านเป็นร้านรับทำเบาะ โดยต้นเพลิงเกิดที่บริเวณหน้าห้องน้ำชั้นแรก ก่อนลุกลามขึ้นชั้น 2 และบ้านใกล้เคียงอย่างรวดเร็ว และนายแก่นศักดิ์ก็พยายามใช้น้ำดับไฟแล้วแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากเป็นบ้านไม้และยังมีถังทินเนอร์จำนวนมากทำให้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ส่วนอาคารพาณิชย์ที่ไฟลุกลามไปถึงนั้นปัจจุบันใช้งานเป็นโกดังเก็บของ คาดว่าสาเหตุอาจเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ต้องรอการตรวจสอบจากกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) อย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
