สน.ประเวศ รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์-ทำร้ายผู้หญิงกลางห้างดัง ย่านศรีนครินทร์ ก่อนถูกปิดล้อมาจับกุมตัวไว้ได้ พบเป็นหนุ่มใหญ่เกาหลีใต้อ้างหูหนวกเป็นใบ้ ตกอับไม่มีงานทำจึงก่อเหตุด้วยการนำปืนปลอมมาจี้ชิงทรัพย์สาวผู้จัดการบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง หวังชิงรถยนต์ไปขายหาเงินประทังชีวิต แต่ผู้เสียหายต่อสู้ขัดขืนจึงได้ชกหน้าไปหลายครั้ง ผู้เสียหายแกล้งสลบก่อนหนีออกมาจากรถได้เรียกคนช่วยปิดล้อมจับกุม
เมื่อเวลา 22.00 น.วานนี้ (25 มิ.ย.) ร.ต.ท.ธรรศพงศ์ เดชวรไพบูลย์ พนักงานสอบสวน สน.ประเวศ ได้รับแจ้งเหตุมีชายใช้อาวุธปืนจี้ชิงรถยนต์ภายในห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ ถนนศรีนครินทร์ แขวงบางบอน เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต รอง ผบช.น. พ.ต.อ.สมควร พึ่งทรัพย์ ผกก.สน.ประเวศ พ.ต.ท.เผด็จ ภู่บุบผากาญจน รอง ผกก.ป. และเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู
ในที่เกิดเหตุเป็นภายในซอยศรีนคริทร์ 57 บริเวณหลังหมู่เสรีวิลล่า พรีเมียร์ 1 แยก 12 มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครประมาณ 30 คนได้ปิดล้อมทางเข้าออกเป็นเวลานานประมาณ 2 ชั่วโมง จึงพบรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีอาร์วี สีดำ หมายเลขทะเบียน ฌต 1719 กทม. จอดดับเครื่องอยู่ข้างทางในสภาพกระจกหน้าแตกร้าว และหลังคายุบ พบชายคนร้ายนั่งอยู่ภายในรถ จึงนำตัวคนร้ายไปทำการสอบสวนที่ สน.ประเวศ
ภายหลังทราบชื่อ นายลิม จุนวู อายุ 44 ปี ชาวเกาหลีใต้ อ้างว่าตนเองเป็นนักท่องเที่ยว แต่พิการหูหนวกเป็นใบ้ เข้ามาในประเทศไทยพร้อมกับคณะทัวร์ตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นก็ได้แยกกับคณะทัวร์ โดยหนีมาอยู่ที่พัทยาใต้เพื่อเที่ยวเตร่และหางานทำ แต่ไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับเนื่องจากตนเองเป็นใบ้สื่อภาษาไม่รู้เรื่อง จากนั้นเงินที่นำติดตัวมาก็เริ่มหมด จึงเดินทางเร่ร่อนมาที่ กทม. ต่อมาจึงคิดว่าจะหาเงินด้วยวิธีการชิงรถยนต์ไปขาย จึงได้เข้าไปห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ ก่อนไปซื้อปืนปลอมมาในราคา 20 บาท จากนั้นได้มาพบผู้เสียหายเป็นหญิงสาวชาวไทย จึงได้เอาปืนจี้บังคับเพื่อที่จะเอารถยนต์ของผู้เสียหายไป แต่ผู้เสียหายขัดขืนและร้องขอความช่วยเหลือจึงได้ชกเข้าไปที่ใบหน้าหลายครั้ง หลังจากนั้นจึงขับรถของเหยื่อหลบหนี จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามปิดล้อมจับกุมดังกล่าว
น.ส.ชิดชนก สามลเกรียติ อายุ 36 ปี ผู้จัดการฝ่ายบริหารบริษัทแห่งหนึ่ง ผู้เสียหายและเป็นเจ้าของรถยี่ห้อฮอนด้า ซีอาร์วี สีดำ ทะเบียน ฌต 1719 กทม.ให้การว่า ตนเองมาซื้อของภายในห้างฯ ซีคอน โดยจอดรถไว้ที่ลานจอดรถด้านหลังของห้าง เมื่อซื้อของเสร็จกำลังจะขับรถกลับบ้าน ได้มีคนร้ายเป็นชายรูปร่างสันทัด สวมเสื้อเชิ้ตสีเทา-ดำ กางเกงขายาวสีดำ เดินเข้ามาบริเวณข้างคนขับ ก่อนที่จะเปิดประตูพร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่ ทำให้ตนตกใจกลัว จังหวะนั้นคนร้ายฉวยโอกาสกำมือชกเข้าใบหน้าของตนเองหลายครั้ง และพยายามผลักให้เข้าไปนั่งที่เบาะข้างคนขับ ตนเองได้พยายามขัดขืนต่อสู้โดยกัดที่นิ้วของคนร้ายและร้องขอความช่วยเหลือ แต่ก็สู้แรงไม่ไหวถูกชกที่บริเวณดั้งจมูกหลายครั้งจนฟกช้ำดำเขียว ภายหลังได้แกล้งสลบ รอคนร้ายเผลอก็รีบเปิดประตูหนีออกมาได้ อย่างไรก็ตาม ได้พยายามเรียกให้คนช่วย โดยมี รปภ.ของทางห้างเข้ามาให้การช่วยเหลือนำตนเอง ส่ง รพ.ศิครินทร์ พร้อมทั้งแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้สกัดจับจนได้รถยนต์คืนมาดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหา จึงจะได้ทำการประสานเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ประจำประเทศไทย เพื่อให้จัดส่งล่ามมาแปลภาษา และแจ้งข้อหาชิงทรัพย์ผู้อื่นและทำร้ายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ต่อมา พ.ต.ต.ปกรณ์ ทองช่วง สว.สส.สน.ประเวศ เปิดเผยว่าเบื้องต้นทราบว่านายลิมจุน วูได้เดินทางเข้ามาเมืองไทยในช่วงเดือน กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อมาเที่ยว แต่นายลิมจุน วู ใช้เงินจนหมดจึงไม่มีค่าเดินทางกลับเกาหลีใต้ ทำให้ก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
โดยตอนนี้ยังควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ที่ สน. ก่อนประสานเจ้าหน้าที่ สถานทูตเกาหลีใต้มาร่วมกันสอบปากคำผู้ต้องหา ซึ่งหลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบหาหลักฐานเพิ่มเติม รวมทั้งภาพจากกล้องวงจรปิดในจุดเกิดเหตุอีกครั้ง พบว่ามีเพียง รองเท้าของผู้ต้องหาเพียง 1ข้าง ตกอยู่บริเวณป่าหญ้าข้างทางภายในซอย2 ของหมู่บ้านดังกล่าว ส่วนจุดที่เกิดเหตุนั้นตรวจสอบแล้วไม่มีกล้องวงจรปิดแต่ อีกทั้งเป็นจุดอับและมืด ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเก็บภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณอื่นแทน อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ตำรวจต้องทำการสอบปากคำผู้เสียหาย รวมทั้งตรวจสอบหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อรวบรวมประกอบสำนวนคดี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป