นักศึกษามหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังเข้าแจ้งความต่อกองปราบฯ ดำเนินคดีอดีตพิธีกรสาวหลอกขายสินค้าแฟชั่นผ่านทางอินสตาแกรม มีผู้เสียหายเป็นจำนวนมากแต่ไม่กล้าเข้าแจ้งความ เนื่องจากอดีตพิธีกรสาวแสบแอบอ้างเบ่งรู้จัก ส.ส.
คลิกเพื่อรับชมคลิป...
วันนี้ (25 มิ.ย.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 12.30 น. น.ส.ทัศพร บูรณะธีรกิจ หรือแป้ง อายุ 21 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง และนักแสดงตัวประกอบละคร พร้อมด้วยกลุ่มผู้เสียหายรวม 10 คน เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.วีรยุทธ ไชยสุระ พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อ น.ส.ทัณฑธร ชัยวัฒน์ หรือนุ่น อายุ 28 ปี ที่ก่อเหตุหลอกขายสินค้าทางอินสตาแกรม ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน โดยนำเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น สลิป โอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร มอบให้พนักงานสอบสวนไว้ประกอบการพิจารณาดำเนินคดี
น.ส.ทัศพรกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้รับคำแนะนำจากเพื่อนที่รู้จักกันว่ามีผู้เสนอขายสินค้าประเภทกระเป๋าแฟชั่นแบบผู้หญิง เสื้อผ้า และเครื่องประดับต่างๆ ผ่านทางแอปพลิเคชันอินสตาแกรม (ไอจี) ใช้ชื่อร้านว่า “ESTRE VINTAGE” และยังได้เปิดร้านที่บริเวณใกล้กับห้างสรรพสินค้าเมเจอร์ สาขารัชโยธิน ตนสนใจซื้อกระเป๋าแฟชั่น 17 ใบ ราคาใบละ 1,890 บาท แต่เขาลดราคาให้ โดยต้องชำระค่าสินค้าทั้งสิ้น 9,950 บาท โอนเงินผ่านบัญชีธนาคารกสิกรไทย ในชื่อของ น.ส.ทัณฑธร เมื่อวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา แต่ภายหลังกลับไม่ได้รับสินค้าแต่อย่างใด
น.ส.ทัศพรกล่าวต่อว่า จากนั้นทราบว่ามีผู้เสียหายอีกหลายรายที่ถูกหลอกลวงเช่นเดียวกัน จึงนัดหมายเข้าแจ้งความดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม ทราบว่าก่อนหน้านี้มีผู้เสียหายบางรายได้แจ้งความไว้แล้วที่สถานีตำรวจท้องที่ต่างๆ รวมทั้งบางคนก็ติดตามเรื่องจนได้รับเงินคืน แต่เชื่อว่ายังมีผู้เสียหายถูกหลอกลวงไม่น้อยกว่า 300 คน มีทั้งที่โอนเงินแล้วไม่ได้รับสินค้า หรือได้รับสินค้าไม่ครบตามที่สั่งซื้อไป เมื่อทวงถามไปเขาก็จะผัดผ่อนไปเรื่อยๆ เมื่อเราบอกว่าจะแจ้งความในข้อหาฉ้อโกง เขาก็จะข่มขู่ว่าจะแจ้งความกลับในข้อหาหมิ่นประมาท อีกทั้งยังอ้างว่ารู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองรวมทั้ง ส.ส.ด้วย หากอยากแจ้งความก็เชิญ ทำให้ผู้เสียหายบางคนก็ไม่กล้าเข้าแจ้งความ
น.ส.ทัศพรกล่าวด้วยว่า เขาเปิดร้านเสนอขายสินค้าแบบนี้มาตั้งแต่ปี 2553 มีการเปลี่ยนชื่อหน้าร้าน 2-3 ครั้ง ที่ผ่านมาก็มีทั้งผู้เสียหายจำนวนมาก รวมทั้งนักศึกษาสาวชาวจีนก็ตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อสั่งซื้อสินค้าและโอนเงินให้นับหมื่นบาท ส่วนใหญ่เหยื่อจะโอนเงินไปรายละประมาณ 8,000-10,000 บาท คาดว่ามีมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 3 แสนบาท ส่วนหน้าร้านของ น.ส.ทัณฑธรนั้นก็ปิดตัวไปตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และไม่สามารถติดต่อได้ หากผู้เสียหายรายใดทวงถามเขามากๆ ก็จะข่มขู่ และไม่สามารถติดต่อได้อีก
ด้าน ร.ต.ท.วีรยุทธกล่าวว่า เบื้องต้นได้รับเรื่องและสอบปากคำผู้เสียหายไว้ ก่อนจะนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับประวัติ น.ส.ทัณฑธร เคยผ่านงานพิธีกรภาคสนามรายการโทรทัศน์แห่งหนึ่ง รวมทั้งเคยให้ดารานักแสดงวัยรุ่นชื่อดัง ร่วมเป็นพรีเซ็นเตอร์เสนอขายสินค้าให้ จึงยิ่งทำให้กลุ่มผู้เสียหายหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก