“สันธนะ” อดีต ผกก.สันติบาล เข้ายื่นหนังสือขอแสดงตนเป็นพยานในคดีจับบ่อน “นัมเบอร์วัน” ภายในซอยรามคำแหง 39 เอาผิด “วิศิษฐ์” เจ้าของสนามกอล์ฟระดมทุนเปิดบ่อน ลักไก่ไม่จ่ายส่วยแอบอ้างรู้จักผู้ใหญ่ในวงการทหาร-ตำรวจ ชี้บ่อนการพนันทั่วประเทศมีกว่า 1 พันแห่ง จ่ายส่วยจำนวนมหาศาลวงการสีกากี พร้อมยืนยันบ่อนการพนัน “นัมเบอร์วัน” มีคนมีสีเข้ามาเกี่ยวข้องเป็นแบ็กอยู่เบื้องหลังแน่นอน จ่อยื่นเรื่องถึง คสช.โดยตรงทบทวนเรื่องการเปิดบ่อนการพนันถูกกกฎหมาย
วันนี้ (23 มิ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรอง ผกก.สันติบาล เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) เพื่อขอแสดงตัวเป็นพยานฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐในการดำเนินคดีต่อเจ้าของบ่อนการพนัน “นัมเบอร์วัน” ในการเดินทางมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) วันนี้ เพื่อมาเปิดโปงพฤติกรรมการกระทำที่ไม่เหมาะสมของนายวิศิษฐ์ สัจจพจนุกูล เจ้าของบ่อนนัมเบอร์วัน และให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับบ่อนการพนันนัมเบอร์วัน และนำภาพตนเองถ่ายกับนายวิศิษฐ์มาแสดงด้วย พร้อมแนบหลักฐานชื่อคนที่ถูกนายวิศิษฐ์ฉ้อโกง
พ.ต.ท.สันธนะเปิดเผยว่า การมาในวันนี้ไม่ใช้ประเด็นของบ่อนนัมเบอร์วันเพียงอย่างเดียวแต่รวมไปถึงให้ข้อมูลเกี่ยวกับบ่อนการพนันและพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของนายวิศิษฐ์ อดีตเจ้าของสนามไดรฟ์กอล์ฟนัมเบอร์วัน ที่ได้ผันจากสนามไดรฟ์กอล์ฟมาเป็นบ่อนการพนัน เนื่องจากสนามไดรฟ์กอล์ฟมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ นายทหาร นายพล นายพัน มาใช้บริการอยู่ตลอด นายวิศิษฐ์จึงมองเห็นโอกาสที่จะเปิดบ่อนการพนันในสนามกอล์ฟ ความจริงแล้วนายวิศิษฐ์ไม่ได้เป็นนายบ่อนอาชีพแต่อย่างใด นายวิศิษฐ์เป็นเพียงนักฉวยโอกาสที่เปิดบ่อนนัมเบอร์วันขึ้นมาเพียงเท่านั้น โดยเป็นการขยายธุรกิจเห็นโอกาสจากการเติบโตของบ่อนพระราม 9 เดิมทีบ่อนนี้มีโต๊ะบาคาร่าอยู่ภายในบ่อนถึง 80-90 โต๊ะ มีการเปิดให้นักพนันรุ่นใหม่จองโต๊ะบาคาร่า วางเงินค่ามัดจำล่วงหน้าก่อน ค่ามัดจำหนึ่งโต๊ะอยู่ที่ 500,000 บาท และในแต่ละวันจะมีค่าเช่าโต๊ะคาบาร่า 100,000 บาทต่อหนึ่งวัน โดยนายวิศิษฐ์จะอ้างต่อนักพนันรุ่นใหม่ที่สนใจอยากเปิดโต๊ะเป็นของตัวเองว่าได้เจรจากับเจ้าหน้าที่รัฐ และได้จ่ายเงินหน้าโต๊ะให้กับรัฐมนตรีแล้ว หลังจากนั้นก็มีการนัดวันเพื่อเปิดบ่อนนัมเบอร์วันแห่งนี้ขึ้น แต่อ้างมีปัญหาไม่สามารถเปิดได้ นายวิศิษฐ์ก็ไม่ได้คืนเงินมัดจำล่วงหน้ากับนักพนันรุ่นใหม่ไป โดยมีการอ้างว่ารอเคลียร์กับเจ้าหน้าที่ก่อน จากอดีตในยุคที่การพนันเฟื่องฟู หรือในยุคที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มีบ่อนใหญ่ๆ 4 แห่ง คือ บ่อนเตาปูน บ่อนเพชรบุรี บ่อนพระราม 3 และบ่อนลอยฟ้า ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับกาสิโนในต่างประเทศที่มีผู้เข้ามาใช้บริการที่บ่อนอย่างล้นหลาม แต่ขณะนี้ยุติหมดแล้ว เฉพาะในกรุงเทพฯ มีบ่อนพนันกว่า 100 แห่ง ทั่วประเทศนับ 1,000 แห่ง บ่อนใหญ่จะมีการจ่ายส่วยให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจบางคนไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาทต่อ หนึ่งบ่อน ปัจจุบันถ้าเป็นบ่อนใหญ่ไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท หรือแม้กระทั้งบ่อนเล็กๆ ก็ต้องมีการจ่ายผลประโยชน์ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาทเช่นกัน
พ.ต.ท.สันธนะกล่าวว่า สำหรับนายวิศิษฐ์ไม่ได้จ่ายเงินในส่วนนี้หรือไม่มีการซื้อตั๋ว แต่ใช้การแอบอ้าง ลวงนักพนัน ทั้งนี้ขอยืนยันว่าคนมีสีมีส่วนเกี่ยวข้องแน่นอน และหากไม่มีความคืบหน้าตนจะยืนหนังสือไปที่ คสช.ในวันพุธที่ 25 มิถุนายน เพื่อยื่นข้อเสนอหารือพูดคุยถึงกรณีที่ประเทศไทยควรจะมีการเปิดกาสิโน หรือบ่อนการพนันอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เพราะวังวนนี้ยังมีอยู่ เมื่อเลิกกวดขันก็กลับมาเปิดมีการจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่อีก
พ.ต.ท.สันธนะกล่าวว่า โดยส่วนตัวตนได้มีการพูดคุย ตักเตือนนายวิศิษฐ์แล้วเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องในการเปิดบ่อนการพนัน และตนพร้อมที่จะไปเป็นพยานยืนยันชี้ตัวนายวิศิษฐ์ให้เจ้าหน้าที่หากมีการจับกุมตัวนายวิศิษฐ์เพื่อนำมาดำเนินความผิดต่อไป