บอร์ด ก.ตร.เตรียมพิจารณาหลักเกณฑ์ผู้สมัครสอบนายสิบ หลังจากปรับลดวุฒิจากปริญญาตรีเป็นมัธยม 6 หรือเทียบเท่า อายุ 18-21 ปี ส่งผลกระทบต่อผู้สมัครที่มีอายุเกินและเสียเงินเตรียมตัวการสอบไปแล้วเนื่องจากเป็นการปรับเปลี่ยนแบบกะทันหัน
วันนี้ (23 มิ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายขจรวัฒน์ เจียมพิริยะกุล อายุ 25 ปี พร้อมด้วยบุคคลภายนอกที่ต้องการสอบนายสิบตำรวจ ประมาณ 10 คน เข้าพบ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้ทบทวนการปรับหลักเกณฑ์ผู้สมัครสอบนายสิบ หลังมีข่าวว่าทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะปรับหลักเกณฑ์จากเดิมที่รับอายุ 18-27 ปี วุฒิปริญญาตรี เป็นวุฒิมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า อายุ 18-21 ปี ทำให้หลายคนเกิดความเดือดร้อนเนื่องจากอายุเกิน และเป็นการปรับเปลี่ยนแบบกะทันหัน หลายคนเสียเงินกับการเตรียมสอบไปแล้ว
พล.ต.อ.วัชรพลได้เข้าพบและพุดคุยทำความเข้าใจว่า เมื่อปี 2551 คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ได้อนุมัติปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์การสอบรับบุคคลภายนอกเข้าเป็นตำรวจชั้นประทวน โดยใช้วุฒิปริญญาตรี เกณฑ์อายุระหว่าง 18-27 ปี แต่หลังจากนั้นได้มีการประเมินพบว่าการใช้วุฒิปริญญาตรีมาเป็นตำรวจชั้นประทวนไม่เหมาะสมกับระบบที่มียศ ทำให้มีปัญหาหลายด้าน ทั้งเรื่องการขาดกำลังพลในส่วนของต่างจังหวัด ตชด. ศชต. เพราะจะเลือกลงในเมืองมากกว่า ไม่ฟังตำรวจชั้นประทวนที่อายุเยอะอย่างนายดาบ เนื่องจากตำรวจเก่าๆเหล่านี้ไม่จบปริญญาตรี ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงได้หารือกับทาง ก.ต.ช. ทำให้ ปี 2554 ก.ต.ช.ก็ยกเว้นให้ใช้วุฒิ ม.6 ปี 2555 ก็เช่นกัน
พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวอีกว่า จากนั้นทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มหาวิทยาลัยร่วมกับแพทย์ และนักจิตวิทยา ให้มาประเมินผลได้ข้อสรุปว่า ตำรวจชั้นประทวนควรรับ ม.6 อายุ 18-21 ปี ซึ่งก็ได้เข้าที่ประชุมบริหารเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จากนั้นได้เข้าชี้แจงต่อ ก.ต.ช. ทางก.ต.ช.เข้าใจได้มีมติยกเลิกรับบุคคลภายนอกวุฒิปริญญาตรีมาเป็นตำรวจชั้นประทวน ให้กลับไปรับวุฒิ ม.6 อายุ 18-21 ปี ตามที่มีข่าวออกไป แต่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ยังไม่ได้มีการประกาศออกไปอย่างเป็นทางการ
รรท.ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า เมื่อมีการเปลี่ยนหลักเกณฑ์แล้วพบว่ามีผู้ที่เตรียมตัวจะสอบเป็นจำนวนมากได้รับผลกระทบ เสียเงินติวเตรียมตัวสอบ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ต้องรับฟัง และจะไปทบทวนหลักเกณฑ์นำเข้าที่ประชุมบริหารให้ ให้เลื่อนใช้มติก่อนหน้านี้ไปก่อน ซึ่งผลที่จะออกมาไม่น่าเป็นห่วง แนวโน้มน่าจะเป็นไปในแนวทางที่ดี ไม่ต้องหวั่นไหว อย่างไรก็ตาม ปีต่อไปจะไม่มีการปรับหลักเกณฑ์แน่นอน เพราะต้องเอาองค์กรเป็นที่ตั้ง องค์กรที่ต้องมียศ มีระเบียบวินัย และตำแหน่งประทวนต้องทำงานตรากตรำ ขอให้ทุกคนตั้งใจสอบในปีนี้จะรับประมาณ 6,800 อัตรา
ด้านนายขจรวัฒน์กล่าวว่า หลักเกณฑ์เดิมที่กำหนดให้บุคคลอายุระหว่าง 18-27 ปี มีสิทธิสมัครสอบได้ เป็นช่วงอายุที่เหมาะสม แต่หากมีการปรับหลักเกณฑ์ใหม่ขอให้ประกาศล่วงหน้าเพื่อไม่ให้กระทบต่อผู้ที่เตรียมตัวสอบในปีนี้
ด้าน พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ แสงคล้าม ผบช.กพ.กล่าวว่า ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงคาดว่าจะเปิดรับสมัครสอบนายสิบได้ภายในปลายเดือนนี้ 6,800 อัตรา และขอจากรัฐบาลอีก 5,000 อัตรา หากทันจะประกาศพร้อมกันแต่ถ้าไม่ทันก็จะประกาศตามภายหลัง ส่วนหลักเกณฑ์ก็จะทบทวนเรื่องอายุ เพราะเข้าใจถ้าลดอายุลงกะทันหันก็จะกระทบต่อคนจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าการรับปริญญาตรีเป็นประทวนและเกณฑ์อายุสูงนั้นไม่เหมาะกับงาน อย่างสอบครั้งที่ผ่านมาเกณฑ์อายุผุ้ที่สอบได้เฉลี่ยอยู่ที่ 25 ปี ซึ่งทางการแพทย์แล้วร่างกายคนอายุ 25 นั้นพัฒนาไม่ได้แล้ว มีแต่จะดาวน์ลง ทำให้กระทบการปฏิบัติเพราะตำแหน่งนี้ต้องทำงานหนัก หากรับคนอายุน้อยมาเราสามารถมาฝึกพัฒนาร่างกายได้มากกว่า