ปทุมธานี - ศาลจังหวัดธัญบุรีจัดโครงการร่วมใจไกล่เกลี่ย ประจำปี 2557 มุ่งเน้นไกล่เกลี่ยกรณีพิพาทลดการขัดแย้งและการค้าความ
วันนี้ (11 มิ.ย.) ที่ศาลจังหวัดธัญบุรี ณ อาคารศาลจังหวัดธัญบุรี ชั้น 2 โซน B (บริเวณศูนย์ไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาท) โครงการร่วมใจไกล่เกลี่ย ประจำปี พ.ศ. 2557 จัดโดยศาลจังหวัดธัญบุรี ระหว่างเดือนมิถุนายน ถึงเดือนกรกฎาคม 2557 ณ อาคารศาลจังหวัดธัญบุรี ชั้น 2 โซน B (บริเวณศูนย์ไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาท) ของศาลจังหวัดธัญบุรี เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของคู่ความในการยุติข้อพิพาท และเพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายแก่ประชาชน โดยนายณรัช อิ่มสุขศรี ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดธัญบุรี เป็นประธานพิธีเปิด
นายณรัช อิ่มสุขศรี ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดธัญบุรี กล่าวว่า ในปัจจุบันความขัดแย้งในเรื่องต่างๆนั้นมีหลายรูปแบบเรื่องราวที่เกิดขึ้นจะเป็นด้วยเจตนา ความตั้งใจ หรือความประมาทพลั้งเผลอ จะมีเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้นได้ตลอดเวลาในทุกสังคมปัจจุบัน ดังนั้นปัญหาแตกต่างทางความคิด ขัดแย้งในเรื่องผลประโยชน์ ย่อมเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ณ ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าเรื่องต่างๆ ที่แต่ละฝ่ายซึ่งก็มีเหตุผลของตัวเองและไม่สามารถหาความลงตัวได้ จึงต้องมีผู้ชี้ขาดในเหตุการณ์ต่างๆ เพื่อหาข้อสรุป และความถูกต้องที่แท้จริงและเป็นธรรม คือทุกเรื่องราวต้องเดินเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเป็นผู้ชี้ขาด หาข้อยุติในทุกกรณี
จากปัญหาใหญ่น้อยทั้งหมดที่กล่าวจึงเป็นจุดกำเนิดโครงการนี้ว่าเป็นเรื่องที่ดีมีประโยชน์กับสังคมส่วนรวมเป็นอย่างมาก เพราะจะเกิดให้อำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชนในสังคม ก่อให้เกิดความสมานฉันท์ รู้รักสามัคคีและเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในกระบวนการยุติธรรม และเพื่อรณรงค์ให้ประชาชนผู้มีอรรถคดีในศาลได้เลือกใช้การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเพื่อยุติคดีในศาลด้วยความสะดวก รวดเร็ว ประหยัด และเป็นธรรม และที่สำคัญเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทให้เป็นที่แพร่หลายในหมู่ประชาชน ทางศาลจังหวัดธัญบุรีได้พิจารณาเห็นว่าเพื่อเป็นการสนองนโยบายของสำนักงานศาลยุติธรรมที่สนับสนุนให้ศาลยุติธรรมทั่วประเทศจัดกิจกรรมเพื่อรณรงค์การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท โดยการจัดงานครั้งนี้เป็นการนำร่องให้แก่ผู้ที่เข้าร่วมงานให้ได้รู้และเข้าใจในวัตถุประสงค์ของโครงการ ซึ่งต่อไปโครงการนี้จะแพร่ขยายให้ความรู้แล้ความเข้าใจกับประชาชนทุกกลุ่มได้มีความเข้าใจนำไปเป็นแนวทางคู่กับชีวิตประจำวัน และยังเป็นการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับตัวเองและในหมู่คณะ
นายณรัช อิ่มสุขศรี ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดธัญบุรี ได้กล่าวกับผู้ร่วมงานในครั้งนี้ว่า เรื่องราวต่างๆ ที่เข้ามาสู่กระบวนการของศาลมีหลายครั้งจะเห็นได้ว่าในบางเรื่องนั้นบางที่ก็ไม่ได้ใหญ่โตแต่เป็นเรื่องของศักดิ์ศรี คงจะเคยได้เห็นกันมาแล้วว่าในบางคดีที่เป็นการหมิ่นประมาทจะมีการเรียกร้องค่าเสียหายกันที่ละเป็นจำนวนมากๆ ทั้งๆ ที่เรื่องราวก็ไม่ได้ใหญ่โตมากมายแต่คนเรานั้นย่อมยึดถือศักดิ์ศรีของตัวเองในวงสังคม ถ้าเมื่อใดมีการหมิ่นประมาทก็จะมีการฟ้องร้องเพื่อให้ศาลหาข้อยุติ กระบวนการไกล่เกลี่ยจึงมีความจำเป็นที่ต้องนำออกมาใช้อยู่ตลอดเวลาซึ่งศาลก็จะให้ความเข้าใจต่อทั้งสองฝ่ายได้มีการตกลงกันก่อนจนได้ข้อยุติ ในบางครั้งก็จบด้วยการลงโฆษณาข้อความตามหน้าหนังสือพิมพ์ในฉบับต่างๆ ตามข้อตกลงซึ่งกันและกันแล้วทุกอย่างก็จบ แต่เมื่อมีการประณีประนอมกันได้ทั้งสองฝ่ายทุกอย่างก็จบโดยที่ไม่ต้องมีการเสียเงินเสียทองตามที่ยื่นฟ้องมายังศาล จะเห็นได้ว่าการไกล่เกลี่ยประนีประนอมนั้นนอกจะเป็นทางออกที่ดีแล้วยังเป็นการสร้างความสามัคคีสำหรับคนในชาติให้หันหน้าเข้าหากัน ลดความขัดแย้งที่มีต่อกัน ลดข้อพิพาทในเรื่องต่างๆ ให้ลดน้อยลง เป็นการสร้างความสมานฉัน์ให้แก่คนในสังคมลดความแตกแยก ซึ่งเป็นการณสนองนโยบายการสมานฉันท์ปรองดองแห่งชาติของรัฐบาลได้อีกทางหนึ่งด้วย
นางสุวรรณา พรอิชยานนท์ ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการประจำศาลจังหวัดธัญบุรี เปิดเผยว่า โครงการร่วมใจไกล่เกลี่ย ประจำปี พ.ศ. 2557 จัดโดยศาลจังหวัดธัญบุรี ระหว่างเดือนมิถุนายนถึงเดือนกรกฎาคม 2557 ณ อาคารศาลจังหวัดธัญบุรี ชั้น 2 โซน B บริเวณศูนย์ไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาท ของศาลจังหวัดธัญบุรี เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของคู่ความในการยุติข้อพิพาท และเพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายแก่ประชาชน