นนทบุรี - สภ.ย่อยรัตนาธิเบศร์ รับแจ้งเหตุมีการยิงต่อสู้กันกลางถนนรัตนาธิเบศร์ บริเวณหน้าปากซอยรัตนาธิเบศร์ 24 ตรวจสอบพบเป็นเหตุคนร้ายค้ายาเสพติดหนีการจับกุมยิงต่อสู้ตำรวจจนได้รับบาดเจ็บสาหัส
เมื่อเวลา 22.30 น.วันที่ 10 มิ.ย. ร.ต.ท.ถิรวัฒน์ ฟักประไพ ร้อนเวรสอบสวน สภ.ย่อยรัตนาธิเบศร์ ได้รับแจ้งเหตุมีการยิงต่อสู้กันกลางถนนรัตนาธิเบศร์ บริเวณหน้าปากซอยรัตนาธิเบศร์ 24 ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายในที่เกิดเหตุ จึงรายงาน พ.ต.อ.สุรพงษ์ ถนอมจิตร รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี รักษาการ ผกก.สภ.เมืองนนทบุรีทราบ จากนั้นประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูรุดตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นกลางถนนรัตนาธิเบศร์ขาเข้ามุ่งหน้าเมืองนนทบุรี ในช่องทางด่วนพบคนร้ายคือนายสุรชัย ฤทธิพรรณา อายุ 30 ปี ได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิงหลายนัดและพบคราบเลือดบนพื้นถนน อาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก ทราบต่อมาว่าเป็นของคนร้าย ปลอกกระสุนปืนจำนวนมากกระจายเต็มพื้นถนน และนาฬิกาข้อมือ 1 เรือน ส่วนคนร้ายถูกยิงบริเวณท้อง 1 นัด แขน 2 นัด และขา 1 นัด เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่ง รพ.พระนั่งเกล้า
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ได้ให้สายลับทำการล่อซื้อยาเสพติดจากแก๊งค้ายาเสพติดที่เป็นคนร้ายตามหมายจับ โดยมีการนัดหมายส่งยาดังกล่าวที่ภายในซอยเรวดี (รัตนาธิเบศร์ 17) เมื่อมาถึงจุดนัดพบคนร้ายขับขี่จักรยานยนต์มาด้วยกัน 3 คน คือ ฮอนด้ารุ่นคลิก สีดำ ทะเบียน บจร 11 กทม. และจักรยานยนต์ยามาฮ่ารุ่นมีโอ สีขาว ทะเบียน ฬบก 456 กทม. เมื่อมาถึงจุดนัดคนร้ายไม่ได้จอดรถเพื่อส่งยา แต่เปลี่ยนที่นัดหมายเป็นหน้าร้าน 108 ช็อป ปากซอยเรวดี (รัตนาธิเบศร์ 17) เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงใช้รถเข้าปิดล้อมจักรยานยนต์คนร้ายและแสดงตนเข้าจับกุม สามารถจับคนร้ายได้ 2 คน คือ นายพฤกษชาติ ดวงจันทร์ อายุ 25 ปี และ น.ส.สุดาวัลย์ เพ๊งพะเนาว์ อายุ 21 ปี ส่วนคนร้ายอีกคนคือ นายสุรชัย ฤทธิพรรณา ได้วิ่งข้ามถนนเพื่อพยายามหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 5 นายจึงวิ่งไล่ติดตามจนมาถึงที่เกิดเหตุและมีการยิงต่อสู้กันจนคนร้ายได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
นายวิชัย เล็กประชา อายุ 37 ปี คนขายอาหารตามสั่งหน้าปากซอยดังกล่าว กล่าวว่า เห็นตำรวจกับคนร้ายยิงต่อสู้กันกลางถนน คนร้ายล้มลงและยิงสวนตำรวจไป โดยคนร้ายมาคนเดียว ได้ยินเสียงปืนหลายสิบนัด คนร้ายได้รับบาดเจ็บล้มลงกลางถนน รถที่วิ่งไปมาหยุดอยู่กลางถนนไม่กล้าวิ่งผ่านไป
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบหมวกกันน็อกแบบเต็มใบสีขาวที่คนร้ายโยนทิ้งระหว่างทางภายในซอกหมวกบรรจุยาบ้าจำนวน 117 เม็ด และจักรยานยนต์ทั้ง 2 คันที่ใช้ก่อเหตุเป็นรถที่คนร้ายขโมยมา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวคนร้ายส่งพนักงานสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง