รายงานอาชญากรรม
รุกไล่ล่าอย่างดุเดือด สำหรับการติดตามจับกุมตัวกลุ่มหัวรุนแรงที่เคยก่อเหตุอุกอาจกราดยิงใส่ผู้ชุมนุมกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) จ.ตราด จนมีเด็กและผู้ใหญ่เสียชีวิต 3 ศพ และบาดเจ็บนับสิบราย...
โดยเหตุการณ์สะเทือนใจครั้งนั้นเกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางดึกคืนวันเสาร์ที่ 22 ก.พ. ที่ตลาดยิ่งเจริญ ต.แสนตุ้ง อ.เขาสมิง จ.ตราด ขณะที่แกนนำกำลังขึ้นปราศรัยโจมตีรัฐบาลในขณะนั้น ที่มี “ปูจ๋า” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั่งเก้าอี้เป็นผู้นำฝ่ายบริหารท่ามกลางความสนใจของประชาชนนับร้อยชีวิต ที่ส่วนใหญ่นั่งรับฟังอยู่ด้านล่างเวที และกระจัดกระจายอยู่บริเวณรอบข้าง ตามร้านอาหารต่างๆ
ขณะที่บนเวทีกำลังชำแหละรัฐบาลหุ่นเชิดตระกูล “ชินวัตร” อย่างเมามันนั้น ได้มีรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า ไฮลักซ์ สีบรอนซ์ และรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ วิ่งแล่นมาด้วยความเร็วก่อนชะลอเมื่อใกล้จุดที่ผู้ชุมนุมอยู่ ทันใดนั้นกลุ่มคนร้ายภายในรถทั้ง 2 คัน ได้โยนระเบิดชนิดเอ็ม 26 พร้อมใช้อาวุธสงครามกราดยิงเข้าใส่ผู้ชุมนุมอย่างไร้มนุษยธรรม
เสียง “ตูมตาม” และ “ปัง...ปัง” ดังสลับติดต่อกันชุดใหญ่ก่อนที่สุดท้ายรถของคนร้ายจะขับหนีเข้าตัวเมืองตราด พร้อมกับเสียงร้องโอดครวญขอความช่วยเหลือ ดังขึ้นมาแทรกแทน!!!
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่เก็บหลักฐาน พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิด จนพบภาพรถกระบะต้องสงสัยทั้ง 2 คัน รวมถึงสอบปากคำพยานแวดล้อมเกือบ 40 ปาก ช่วงสัปดาห์แรกดูเหมือนว่าคดีจะคืบหน้าไปพอสมควร แต่พอทิ้งเวลาผ่านไปไม่นาน คดีคล้ายติดหล่มถูกจับยัดเข้าลิ้นชักจากผู้บังคับบัญชาระดับสูงภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) จนแทบจะตายไปตามกาลเวลา?
แต่ท้ายที่สุดเมื่อ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ประกาศใช้กฎอัยการศึก และ “ยึดอำนาจ” อย่างเป็นทางการ ทางเจ้าหน้าที่ทหารเริ่มเดินหน้ากวาดล้างคลังอาวุธได้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการเข้าจับกุม “เชาว์วัฒน์ ทองเผือก” หรือ “นวย” อดีตทหารพราน และการ์ดแดงอยุธยา วัย 53 ปี เมื่อวันพุธที่ 21 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งต้องผงะกับภาพอาวุธสงครามที่ยึดได้นับสิบรายการ คล้ายฐานทัพเล็กของเหล่ากลุ่มก่อการร้ายเลยทีเดียว โดยอาวุธทั้งหมดถูกซุกซ่อนอยู่ในบ้านเลขที่ 103 หมู่ 8 ต.ชอนสรเดช อ.หนองม่วง จ.ลพบุรี
เรื่องราวยังไม่จบเพียงแค่นั้น เมื่อผู้ต้องหาการ์ดเสื้อแดงรายนี้ได้ให้การซัดทอดว่าอาวุธทั้งหมดเป็นของ 2 สามีภรรยาคู่หนึ่ง คือ “จันทนา วรากรสกุลกิจ” สาวเสื้อแดงวัย 44 ปี และสามีชื่อ “ชัชชาญ บุปผาวัลย์” การ์ดแดงวัย 49 ปี ส่งผลให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นที่อยู่อาศัยของ 2 บุคคลนี้ทันทีในวันเดียวกัน ที่หอพักเอ็นซีโอ เลขที่ 79/10 ซ.สวนหลวง ถ.สวนหลวง เขตกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ก่อนพบ “คลังอาวุธ” เพิ่มเติมอีกจำนวนมาก ทั้งเครื่องยิงเอ็ม 79 และอาวุธปืนสงครามรวมถึงระเบิดอีกหลายรายการ
...แต่ไฮไลต์อยู่ที่ปืนกระบอกหนึ่งในบรรดาของกลางที่ยึดได้ คือ ปืนกลชนิด เอ็ม 3 ขนาด .45 มม. ที่ทาง “บิ๊กเอก” พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. ยืนยันว่า เป็นปืนกระบอกเดียวกันกับที่ใช้ก่อเหตุสังหารโหด กปปส. ตราด หลังทดลองด้วยการยิงพบรอยตำหนิตรงกับปลอกกระสุนที่เก็บได้ในจุดเกิดเหตุนั่นเอง
สุดท้ายเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว “จันทนา” สาวเสื้อแดงไว้ทันที ขณะที่ “ชัชชาญ” สามีของเธอยังอยู่ระหว่างการหลบหนีการจับกุมที่น่าจะกบดานอยู่ในพื้นที่ภาคอีสานอย่าง จ.ศรีสะเกษ...
หลังจากนั้น เช้าวันจันทร์ที่ 26 พ.ค. ทางเจ้าหน้าที่ทหารพรานนาวิกโยธินที่ 1 ใช้กำลังเข้าปิดล้อมพื้นที่บ้านเลขที่ 25 หมู่ 3 ต.ประณีต อ.เขาสมิง จ.ตราด ซึ่งเป็นบ้านของ “ณรงค์ กระจ่างกลาง” อายุ 40 ปี ภายหลังสืบทราบว่ามีส่วนเชื่อมโยงกับเหตุกราดยิง กปปส. ตราด เมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา แต่เจ้าตัวไหวตัวทันเข้าไปแอบซุ่มอยู่ในสวนไม้ก่อนใช้อาวุธปืนลูกซองยิงเจ้าหน้าที่อาสาสมัครทหารพรานเสียชีวิต 1 นาย และหลบหนีไปได้ในท้ายที่สุด
อย่างไรก็ตาม ทหารสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย ประกอบด้วย “วัชระ กระจ่างกลาง” ซึ่งเป็นหลานของ “ณรงค์” ที่ให้การซัดทอดว่าอาของเขาเป็นหนึ่งในขบวนการก่อเหตุสังหารโหดที่ตราด, “วิเชียร ใยบัว” อายุ 45 ปี ส่วน “นวมอำไพ” อาสาสมัครตำรวจชุมชนที่ตราด อีกหนึ่งผู้ลงมือสังหารโหดเวที กปปส. ยังอยู่ระหว่างหลบหนีเช่นกัน
กระทั่งเมื่อวันศุกร์ที่ 29 พ.ค. ทหารและตำรวจได้สนธิกำลังเข้าตรวจค้นบ้านของ “ณรงค์” และ “นวม” อีกครั้งซึ่งพบปืนและเครื่องกระสุนเป็นจำนวนมาก รวมถึงหลักฐานเชื่อมโยงผู้เกี่ยวข้องอีกอย่างน้อย 3 คน คือ “จ.ส.อ.วิโรจน์ กระจ่างกลาง”, “หลวย กุมพะวา” หญิงวัย 57 ปี และ “ร่อง พรมทะ” อายุ 59 ปี...
หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ทหารและบุรุษสีกากีที่เพิ่งตื่น คงจัดชุดพิเศษติดตามคลี่คลายคดีกราดยิง กปปส. ตราด เป็นการเฉพาะ และยังมีรายงานอีกว่า คดีนี้อาจเชื่อมโยงกับการเหตุยิงถล่มบ้านมารดาของ “ทยา ทีปสุวรรณ” ภรรยาของ “ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ” สองแกนนำ กปปส. ที่ จ.นครราชสีมา เมื่อช่วงต้นเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา หลังจากทั้งคู่เป่านกหวีดกรอกหู “เมียนายใหญ่” กลางห้างดัง จนทำให้เสียหน้าเป็นอย่างมาก?
สุดท้ายเห็นคดีเริ่มคืบหน้าแบบนี้ และมีการจับกุมอาวุธสงครามอย่างต่อเนื่องนั้น ก็รู้สึกโล่งใจไประดับหนึ่ง พร้อมกับคำถามตัวโตๆ ว่า ก่อนหน้าที่ทหารจะเข้าควบคุมอำนาจเบ็ดเสร็จ เหล่าผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ยุค “มะขามข้อเดียว” มัวทำอะไรอยู่ หรือกินเงินเดือนประชาชนแต่ทำหน้าที่ขี้ข้าทักษิณก็พอ!!!