“วัชรพล” เผยถอดยศ “นช.แม้ว” ต้องดำเนินการตามขั้นตอน หลังได้รับเรื่องไว้แล้ว ส่วนจะรื้อคดีฆาตกรรม “เอกยุทธ” ขึ้นมาพิจารณาใหม่หรือไม่ ต้องให้ฝ่ายกฎหมายเข้าไปตรวจสอบพยานหลักฐานว่าเป็นของใหม่หรือไม่
วันนี้ (27 พ.ค.) เมื่อเวลา 15.45 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีที่ นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือให้ดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น ว่า ทางสำนักงานเลขานุการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับเรื่องไว้ และจะส่งเรื่องให้หน่วยงานที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการและนำเสนอขึ้นมา เพื่อจะได้สั่งการในขั้นตอนต่อไป โดยวันนี้ที่นายวัชระมายื่นหนังสือนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องไปตรวจสอบความเป็นมาเป็นไป และข้อกฎหมายต่างๆ เพื่อดำเนินการไปตามขั้นตอน ทั้งนี้ ตนยังไม่ทราบรายละเอียด และยังไม่รู้ว่าเรื่องดังกล่าวมีความเป็นมาอย่างไร โดยต้องรอให้ดำเนินการตามขั้นตอน
ผู้สื่อข่าวถามถึงคดี นายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจการเงินและอสังหาริมทรัพย์ ที่ถูกอุ้มฆ่าเมื่อปีที่ผ่านมา จะถูกรื้อคดีมาทำใหม่หรือไม่นั้น พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า ในเรื่องนี้ตนต้องถามฝ่ายป้องกันปราบปราม เพราะการรื้อฟื้นคดีอะไร ก็ต้องให้ฝ่ายกฎหมายเข้าไปตรวจสอบพยานหลักฐานว่าเป็นของใหม่หรือไม่ เพราะทุกเรื่องจะเข้าเงื่อนไขของกฎหมาย
เมื่อถามว่ากรณีเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นทางภาคใต้ ได้รับรายงานในเรื่องนี้หรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า ตนได้รับรายงาน และพูดคุยกับผู้ที่รับผิดชอบ เจ้าหน้าที่มีมาตรการและขั้นตอนในการทำงานร่วมกันของฝ่ายตำรวจ และทหารอย่างรัดกุมแล้ว ก็ต้องดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานแก้ไขต่อไป ซึ่งในเรื่องนี้ ทางฝ่ายสืบสวนจะเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งตนคิดว่าทุกกระบวนการมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว แต่ต้องยอมรับว่า ฝ่ายผู้ที่กระทำความผิด มันเป็นเรื่องที่เราป้องกันได้ลำบาก แต่เราพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด โดยจำนวนเจ้าหน้าที่ที่เราฝึกอบรม และสามารถป้องกันระงับได้ มันอาจจะไม่มีตัวเลขโชว์ ซึ่งต้องเรียนรู้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด และนำมาเป็นบทเรียน เพื่อปรับปรุงมาตรการในการแก้ไขปัญหาต่างๆ
เมื่อถามว่า สถานการณ์ในภาคใต้ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ เป็นปฏิกิริยาที่เป็นผลกระทบจากสถานการณ์การเมืองภายในประเทศหรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า ในเรื่องนี้ต้องให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องดู และหาความเชื่อมโยง เพื่อใช้ในการวิเคราะห์กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งในเรื่องนี้ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะทุกอย่างไม่สามารถกระทำได้เลย โดยต้องมีหลักฐานในการทำงาน