บช.ปส.แถลงข่าวจับกุมวัยรุ่นชาวพัทลุง พร้อมของกลางยาบ้า 49 มัด จำนวน 98,000 เม็ด สารภาพรับจ้างส่งให้เครือข่ายยาเสพติดเที่ยวละ 1 หมื่นบาท
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (28 พ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อาชวันต์ โชติกเสถียร รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ ผบก.ปส.4 ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายประวิตร์ ธานีรัตน์ อายุ 21 ปี ชาว จ.พัทลุง พร้อมด้วยของกลางยาบ้าจำนวน 49 มัด รวมประมาณ 98,000 เม็ด โดยจับกุมได้ที่บริเวณด่านดตรวจพาหนะชุมพร ถนนเพชรเกษม ม.2 ต.หงษ์เจริญ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เมื่อเวลาประมาณ 01.45 น.ของวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า เนื่องจากเจ้าหนาที่ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าจะมีบุคคลต้องสงสัยเป็นชายอายุประมาณ 20 ปี ซุกซ่อนยาเสพติดมากับรถทัวร์ เจ้าหน้าที่จึงได้สนธิกำลังกันตั้งจุดตรวจบริเวณริมถนนเพชรเกษม หน้าที่ทำการด่านตรวจพาหนะ จ.ชุมพร กระทั่งพบรถทัวร์คนดังกล่าวขับผ่านมาจึงเรียกให้หยุดเพื่ออตรวจค้น พบยาบ้าจำนวน 98,000 เม็ดซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าสีดำ จึงได้ตรวจสอบพนักงานประจำรถยืนยันว่านายประวิตร์เป็นเจ้าของกระเป๋าดังกล่าว ในระหว่างการควบคุมตัวนายประวิตร์ได้วิ่งหลบหนีไปตามเส้นทางถนนเพชรเกษม ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ติดตามจับกุมตัวไว้ได้
พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวต่อว่า จากการสอบสวนนายประวิตร์ให้การรับสารภาพว่ายาบ้าดังกล่าวเป็นของนายต้อม ไม่ทราบชื่อสกุลจริง ได้ว่าจ้างให้ตนไปรับยาบ้าที่ถนนสุวินทวงศ์ เขตมีนบุรี กทม. เพื่อไปส่งมอบให้ลูกค้าที่ อ.บ้านนาเดิม จ.สุราษฎร์ธานี โดยนายต้อมจะโทรศัพท์มาให้ตนนำยาบ้าไปโยนทิ้งไว้ตามจุดที่นัดหมาย แล้วจะมีผู้มารับยาบ้าของกลางดังกล่าวเอง ทำมาแล้ว 2 ครั้งได้รับค่าจ้างครั้งละ 10,000 บาท
พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวอีกว่า ยาบ้าล็อตล่าสุดที่จับได้เป็นตราสิงโต และตราเลข 999 ประทับอยู่ เป็นล็อตที่ทาง ป.ป.ส.ตรวจสอบแล้วว่ามีเฮโรฮีนผสมอยู่ อีกทั้งตอนนี้มียาบ้าที่ประทับตราเอสยูระบาด ทาง ป.ป.ส.ยังต้องทำการตรวจสอบแหล่งที่มาว่าเป็นของเครือข่าย พ.ท.ยี่เซหรือไม่ ในตอนนี้มีชลบุรี และสงขลาที่ยังคงเป็นแห่งพักยาใหญ่ เจ้าหน้าที่เฝ้าจับตาดูอยู่อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ตั้งแต่ ป.ป.ส.เปิดเผยว่าชลบุรีเป็นแหล่งใหญ่ก็เริ่มมีการเคลื่อนไหวน้อยลงแล้ว อีกทั้งการขายยาบ้าในชุมชนก็ลดน้อยลงมาก
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวผู้ต้องหาไปสอบสวนขยายผลและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
