นนทบุรี - หนุ่มโพสต์เฟซบุ๊กประจานตำรวจ สภ.บางกรวยไม่ยอมรับแจ้งความครอบครัวตนเองถูกคนร้ายอ้างเป็นบริษัทไฟแนนซ์อุ้มรีดค่างวดรถที่ติดค้างชำระะกว่า 5 หมื่นบาท ด้านตำรวจแสบจับดำเนินคดีทั้งสองฝ่าย เผยผู้แจ้งความเองก็ยิงปืนขึ้นฟ้าข่มขู่คู่กรณี
เมื่อเวลา 18.00 น.วานนี้ (25 พ.ค.) ที่ สภ.บางกรวย จ.นนทบุรี นายธิติพรรณ โพธิ์กลิ่น (อ้วน พระราม 5) อายุ 28 ปี เปิดแผงพระเครื่อง น.ส.อรทัย ม่วงมีค่า อายุ 28 ปี ภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 47/8 หมู่ 3 แขวงหลักสอง เขตบางแค กทม. เดินทางเข้าแจ้งความเพิ่มเติมต่อ ร.ต.ท.สถิตพงษ์ ศรีอ่อน ร้อยเวรสอบสวน สภ.บางกรวย ให้ดำเนินคดีต่อนายปิยวัฒน์ พรจิตรสุวรรณ, นางปรียานันท์ พลชัย และ น.ส.พัณณิดา พรจิตรสุวรรณ ที่ร่วมกันเดินเข้ามาประกบ น.ส.อรทัยและขับรถพาเด็กชายเอ และบี (นามสมมติ) ไปด้วย อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารโดยไม่มีหลักฐานแสดงว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารจริง โดยในวันนี้ได้แจ้งความบุคคลทั้งสามว่ากักขังหน่วงเหนี่ยวและลักพาตัวเพิ่ม
ผู้สื่อข่าวได้ทราบข่าวของนายธิติพรรณที่โพสต์คลิปวิดีโอลงเฟซบุ๊กถึงเหตุการณ์ที่เดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.บางกรวย เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 57 เวลาประมาณ 19.00 น. โดยแจ้งให้จับคนร้ายที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร แต่ได้เข้าประกบตัว น.ส.อรทัย พร้อม ด.ช.เอ และด.ช.บี จนกระทั่งนายธิติพรรณตามไปพบจึงได้พาบุคคลทั้งสามเดินทางเข้าแจ้งความ แต่ภายในคลิปดังกล่าวได้ว่าระบุว่าร้อยเวรไม่รับแจ้งความ พร้อมทั้งเสียงที่นายธิตินันท์พูดถึงนายตำรวจชั้นสูงระดับผู้การหรือรองผู้การที่โทร.เข้ามา และระบุต่อว่าเหตุเกิดตั้งแต่ 19.00 น.จนกระทั่ง 23.00 น.ยังไม่รับแจ้งความ จากนั้น น.ส.อรทัยได้แสดงหลักฐานพร้อมทั้งต้องการให้ร้อยเวรตอบเหตุผลที่ไม่รับแจ้งความ
จากการบอกเล่าของ น.ส.อรทัย ม่วงมีค่า ว่าเมื่อวันที่ 24 พ.ค. 57 เวลา 16.30 น. น.ส.อรทัยพร้อม ด.ช.เอและ ด.ช.บี ได้ขับรถยนต์โตโยต้า วีออส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน สจ9461 กทม.เดินทางไปจ่ายสินค้าที่ตลาดสดเจ้าพระยา ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ขณะได้จอดรถในลานจอดได้มีชายและหญิงอีก 2 คน คือ นายปิยวัฒน์ พรจิตรสุวรรณ, นางปรียานันท์ พลชัย และ น.ส.พัณณิดา พรจิตรสุวรรณ เข้ามาประกบซ้าย-ขวา อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารมายึดรถ โดยไม่มีหลักฐานยืนยันตัวตนที่แท้จริง จากนั้นได้ให้ น.ส.อรทัยขึ้นไปนั่งบนรถของนายปิยวัฒน์ และบังคับให้นำเงินจำนวน 43,900 บาทมาชำระค่างวดรถ ด้วยความกลัวและเกรงว่าเด็กชายทั้ง 2 คนจะเป็นอันตราย น.ส.อรทัยจึงทำตามและได้โทรศัพท์แจ้งให้นายธิติพรรณนำเงินมาชำระ ต่อมาผู้หญิงที่มาด้วยคนหนึ่งบอกให้ น.ส.อรทัยพา ด.ช.เอไปซื้อน้ำดื่มแต่เมื่อกลับมาปรากฏว่ารถของ น.ส.อรทัยได้หายไปพร้อมกับ ด.ช.บี
จากนั้น น.ส.พัณณิดาได้ขับรถยี่ห้อมาสด้า สีทอง มารับบอกว่าจะพาไปหา ด.ช.บี แต่กลับขับรถไปเรื่อยๆ จนกระทั่งนายธิติพรรณ สามี น.ส.อรทัยขับรถตามมาจนทันที่ปั๊มแก๊สบีพี จึงได้พาเด็กชายทั้งสองไปนั่งในรถของนายธิติพรรณและเดินทางไปยังห้างโฮมเวิร์ค พระราม 5 เพื่อตรวจสอบยอดเงินและชำระเงินกับธนาคารเพราะเกรงว่าบุคคลทั้งสามจะเป็นบุคคลแอบอ้าง
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม พ.ต.อ.กิตติ สกุณี ผกก.สภ.บางกรวย จ.นนทบุรี ถึงกรณีดังกล่าวทราบว่า ผู้แจ้งได้มาแจ้งว่าทางฝ่ายไฟแนนซ์ลักทรัพย์ ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ดำเนินการในขั้นตอนการสอบสวนว่าจะแจ้งข้อหาใครต้องได้ข้อเท็จจริงว่าความผิดทางอาญาเกิดขึ้นหรือเปล่า ต้องสอบสวนทุกฝ่ายจนกว่าจะได้ข้อสรุปถึงจะดำเนินการได้ สรุปแล้วทั้งสองฝ่ายต้องถูกดำเนินคดี เพราะผู้แจ้งเองก็ได้มีการยิงปืนขึ้นฟ้าขู่ด้วย ส่วนด้านอื่นๆ ต้องดำเนินคดีไปตามขั้นตอนของกฎหมาย