กาญจนบุรี - รอง ผบช.ภาค 7 แถลงจับกุม “ไอ้กั๊ก” มือยิงตำรวจสืบเมืองกาญจน์ปางตาย ขณะเข้าระงับเหตุกลางดึก ส่วนคู่หูคนขับรถ จยย.ดอดมอบตัวก่อนหน้า
เมื่อเวลา 15.30 น. วันนี้ (20 พ.ค.) ที่ห้องประชุมชั้น 2 สภ.เมืองกาญจนบุรี พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธุ์ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.มานิตย์ จำลองรักษ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พถ.ต.อ.ชินภัทร ตันศรีสกุล รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.จรินทร์ วัฒนไพรสาณฑ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.อ.สมเกียรติ แสวงสุข ผกก.สภ.หนองปรือ และ พ.ต.ท.สุชาย เทศัชบุตร รอง ผกก.สส.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.เจษฎา ปิ่นชูทอง สวป.สภ.พนมทวน ช่วยราชการงานสืบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.ยุทธชัย มีสายมงคล สว.สส.สภ.เมืองกาญจนบุรี กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี
คุมตัวนายชวัลวิทย์ ใจสุกใส หรือ “กั๊ก ดอนแสลบ” อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56 หมู่ 7 ต.ดอนแสลบ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ มจ.205/2557 ลงวันที่ 14 พ.ค.2557 คดีใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 ยี่ห้อสมิธแอนด์เวสสัน ยิง ส.ต.อ.นิติศาสตร์ คูณมา ผบ.หมู่งาน สส.สภ.เมืองกาญจนบุรี เข้าที่หน้าอกกระสุนทะลุ ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส เหตุเกิดเวลา 03.30 น.ของวันที่ 10 พ.ค.ที่บริเวณถนนแม่น้ำแคว หน้าห้างสรรพสินค้าโลตัส เอ็กซ์เพรส เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี
พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธุ์ รอง ผบช.ภ.7 แถลงว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 03.30 น.ของวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มวัยรุ่นก่อเหตุยิงปืนขึ้นฟ้า เหตุเกิดบริเวณถนนแม่น้ำแคว หน้าห้างสรรพสินค้าโลตัส เอ็กซ์เพรส เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี จากนั้น ร.ต.ท.เทอดไท ธนณรงค์ รอง สว.สส.สภ.เมืองกาญจนบุรี และ ส.ต.อ.นิติศาสตร์ คูณมา ผบ.หมู่งาน สส.สภ.เมืองกาญจนบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบเพื่อสอบถามหาข้อมูลกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุ
เมื่อไปถึงพบกลุ่มวัยรุ่นจำนวนหนึ่งยืนอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ จึงได้เข้าไปสอบถามพร้อมแสดงตัวว่าเป็นจำหน้าที่ตำรวจ ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นายกำลังสอบถามกลุ่มวัยรุ่นอยู่นั้น อยู่ๆ ก็มีวัยรุ่นเป็นชาย 2 ราย ขับขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันมา เมื่อถึงจุดเกิดเหตุคนซ้อนท้ายก็ได้ชักอาวุธปืนออกมาแล้วยิงเข้าใส่กลุ่มวัยรุ่นที่กำลังให้ข้อมูลต่อ ร.ต.ท.เทอดไท และ ส.ต.อ.นิติศาสตร์ จำนวนหลายนัด
จากนั้นได้เร่งเครื่องรถจักรยานยนต์หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งผลปรากฏว่า ส.ต.อ.นิติศาสตร์ ถูกยิงเข้าที่หน้าอกกระสุนทะลุซี่โครงด้านขวา ล้มฟุบจมกองเลือดอยู่ริมฟุตปาธ ร.ต.ท.เทอดไท จึงได้วิทยุขอความช่วยเหลือ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้รีบนำตัว ส.ต.อ.นิติศาสตร์ ส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา จากนั้นจึงส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลภูมิพล ใน กทม.ล่าสุด ส.ต.อ.นิติศาสตร์ อาการปลอดภัยแล้ว
ภายหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานจนรู้ตัวคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุ คือ นายปรีชา หรือโจ้ สิงห์อุดร อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 201 ถ.แม่น้ำแคว ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ ศาลได้อนุมัติหมายจับ ที่ มจ.204/2557 ลงวันที่ 14 พ.ค.57 ต่อมา วันที่ 15 พ.ค.นายปรีชา ได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี และยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ขณะนี้อยู่ระหว่างการฝากขัง ส่วนนายชวัลวิทย์ หรือกั๊ก ผู้ลงมือก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง ส.ต.อ.นิติศาสตร์ ได้หลบหนีการจับกุม โดยศาลอนุมัติหมายจับ ที่ มจ.205/2557 ลงวันที่ 14 พ.ค.2557
สำหรับนายชวัลวิทย์ หรือกั๊ก หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปอยู่ในพื้นที่บ้านพุเลียบ ต.หนองบัว จากนั้นหลบหนีไปอยู่ในพื้นที่อำเภอไทรโยค เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ติดตามไปอย่างกระชั้นชิด แต่ผู้ต้องหาไหวตัวหลบหนีไปได้ และในที่สุด หลบหนีไปอยู่ในพื้นที่กระต๊อบเชิงเขา หมู่ 2 ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เขตติดต่อระหว่าง สภ.ทองผาภูมิ และ สภ.สังขละบุรี ชุดจับกุมจึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 สภ.ช่วยไล่ล่ากดดัน จนในที่สุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวได้ก่อนที่ผู้ต้องหาจะหลบหนีออกนอกประเทศ
นายชวัลวิทย์ หรือกั๊ก ผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่า คืนเกิดเหตุได้ไปเที่ยวกับนายปรีชา หรือโจ้ ในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งใกล้จุดเกิดเหตุ ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านจุดเกิดเหตุ ได้มองเห็นกลุ่มวัยรุ่นคู่อริจึงได้ยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อเป็นการข่มขู่ จำนวน 2 นัด จากนั้นได้เร่งเครื่องหลบหนีไป ไม่นานนักตนกับนายปรีชา หรือโจ้ ก็ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์วนกลับมาดู และเมื่อเห็นกลุ่มวัยรุ่นกำลังยืนอยู่บริเวณริมฟุตปาธหลายคนจึงตัดสินในยิงปืนเข้าใส่กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวอีกประมาณ 3 ถึง 4 นัด โดยไม่ทราบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในนั้น
หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป มารู้ภายหลังว่ายิงปืนไปโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส หลังจากทราบจึงได้หลบหนี แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไล่ล่าจับกุมตัวได้ในที่สุด โดยหลังจากแถลงข่าวเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ จากนั้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควร