ตร.บางกอกน้อยจับโจ๋ลูกศิษย์วัดยกพวกตะลุมบอน

ตำรวจบางกอกน้อยแถลงรวบลูกศิษย์วัดดังย่านภาษีเจริญ ก่อเหตุยกพวกตะลุมบอน - ทุบรถคู่อริ บาดเจ็บ 2 ราย พร้อมดำเนินคดีข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกาย และทำให้เสียทรัพย์

กรณีพระสุรพจน์ ปาวโณ อายุ 54 ปี ซึ่งจำวัดอยู่ที่วัดนก แขวงคูหาสวรรค์ เขตภาษีเจริญ กทม. ได้มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับ นายโสภณ ไทยจีน ลูกศิษย์ของพระประสิท บุญมาเลิศ จนกระทั่งพระภายในวัดมาห้ามจึงได้เลิกรากันไป พระสุรพจน์จึงได้ลงบันทึกประจำวันกับหน้าที่ตำรวจไว้เป็นหลักฐาน แต่หลังจากนั้น นายโสภณ กับพวกรวม 7 คน ก็ได้เดินทางไปแจ้งความที่ สน.บางเสาธง เช่นเดียวกัน ต่อมาถูกกลุ่มนายสุชาติ ช้างเดช กับพวกกว่า 20 คน ที่เป็นลูกศิษย์พระสุรพจน์เข้ามาขัดขวาง โดยใช้ท่อนไม้และก้อนอิฐ ทุบกระจกรถยนต์ และรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ กระทั่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางกอกน้อย มาระงับเหตุ เมื่อวันที่ 20 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยมีคลิปวิดีโอบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (24 พ.ค.) ที่ สน.บางกอกน้อย พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบก.น.7 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธนกฤต ไชยจารุวุฒิ ผกก.สน.บางกอกน้อย และ พ.ต.ท.อดิเรก อติสัจจา สว.สส.สน.บางกอกน้อย ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายสุชาติ ช้างเดช หรือ โอ๋ บางแวก อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน ที่ จ.372/2557 ลงวันที่ 23 พ.ค. 2557 ในข้อหา “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่ร่างกาย, ร่วมกันเกินกว่า 5 คนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกาย, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์”

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเหตุดังกล่าวเมื่อวานนี้ (23 พ.ค.) ตำรวจสามารถจับกุมตัวนายชัยชนะ หรือ แป๋ว วงศ์คำจันทร์ อายุ 30 ปีได้ ซึ่งขณะนี้ได้นำตัวฝากขังต่อศาลเรียบร้อยแล้ว และวันนี้ นายสุชาติ ได้เดินทางมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนที่ยังหลบหนีอีกสองรายคือ นายมนตรี หรือ เหนียว นันทกาญจน์ อายุ 28ปี และนายศุกร์เกษม หรือ เต๋า เพ็ญภินันท์ อายุ 18 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลตลิ่งชัน อย่างไรก็ตาม จากการสอบปากคำนายสุชาติได้ให้การว่า ภายในคลิปดังกล่าวมาภาพ นายสุภัทร์ ช้างเดช หรือ อ้อม ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องนายสุชาติปรากฏอยู่ด้วย แต่ยืนยันว่า นายสุภัทร์ ไม่ได้รุมทำร้ายนายโสภณเพียงแค่เข้ามาห้ามปรามไม่ให้ทะเลาะวิวาทกัน ทางเจ้าหน้าที่จะติดตามตัวนายสุภัทร์เพื่อมาสอบปากคำต่อไป

นายสุชาติ กล่าวว่า ที่ตนเดินทางมามอบตัวในวันนี้เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ว่าตนไม่ได้รุมทำร้ายนายโสภณ แต่ตนเดินทางไปที่ สน.บางเสาธง จริง เพื่อพาพระสุรพจน์ไปแจ้งความ ซึ่งตนเห็นเหตุการณ์ขณะที่นายโสภณขับรถมายังสน.บางเสาธง แต่ถูกลูกศิษย์พระสุรพจน์คนอื่นๆ ตะโกนสั่งให้ลงจากรถ ก่อนที่นายโสภณจะรีบขับรถหลบหนีออกจากสน.บางเสาธงไป ดังนั้น ตนจึงไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ที่มีการทำร้ายร่างกายตามคลิปดังกล่าว และตนจะพยายามติดต่อนายสุภัทร์ ลูกพี่ลูกน้องให้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์

ด้าน นายธมนันท์ ผาสุม อายุ 29 ปี แฟนนายโสภณ กล่าวว่า ตนนั่งอยู่ในเบาะหลังของคนขับในวันเกิดเหตุ ซึ่งเมื่อนายโสภณขับรถไปถึง สน.บางเสาธง มีลูกศิษย์พระสุรพจน์กรูเข้ามาทุบรถ และทำท่าคล้ายมีอาวุธพวกตนเกรงว่าจะเกิดอันตรายจึงรีบขับรถหนี โดยยอมรับว่าระหว่างทางเฉี่ยวชนเข้ากับ จยย. ที่จอดอยู่ข้างทาง 4 คัน ซึ่งตนไม่ได้เจตนาจะหนีแต่ต้องเอาตัวรอด กระทั่งติดไฟแดง ลูกศิษย์พระสุรพจน์ตามมาทันจึงรุมทำร้ายร่างกายนายโสภณ และเพื่อนนั่งอยู่กระบะหลังอีก 2 คนได้รับบาดเจ็บ