“นิวัฒน์ธำรง” นัด ก.ต.ช.ถกเปิดตำแหน่งรอง ผบ.ตร.ศุกร์นี้

“นิวัฒน์ธำรง” เตรียมนั่งหัวโต๊ะ ก.ต.ช. วันศุกร์ที่ 23 พ.ค. นี้ วาระกำหนดตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. 2 ตำแหน่ง เยียวยากรณี “วุฒิ ลิปตพัลลภ” ฟ้องศาลปกครองกลาง ว่าการลำดับอาวุโสของ สตช. มิชอบ นอกจากนี้ ยังเปิดตำแหน่ง รอง ผบช.ศชต. อีก 1 ตำแหน่ง

วันนี้ (21 พ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ได้นัดประชุม ก.ต.ช. ครั้งที่ 1/2557 ในวันศุกร์ที่ 23 พ.ค. 57 เวลา 10.00 น. ที่ ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ชั้น 20 อาอาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) มีวาระเพื่อพิจารณาที่น่าสนใจคือ การกำหนดตำแหน่ง รอง ผบ. ตร. รองรับการดำเนินการตามคำพิพากษาศาลปกครองกลาง กรณี พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษา (สบ10) ยื่นฟ้องการจัดลำดับอาวุโสมิชอบ และวาระการพิจารณาให้ความเห็นชอบการกำหนดตำแหน่งรองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจชายแดนใต้ (ศชต.) วาระการขอทบทวน ก.ต.ช. ครั้งที่ 1/2551 เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2551 วาระร่างระเบียบคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อการสืบสวนและสอบสวนคดีอาญาเพื่อสนับหนุนการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจที่เกี่ยวกับการสืบสวนและสอบสวนคดีอาญา

สำหรับการกำหนดตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. นั้นได้ผ่าน มติ ก.ตร. แล้วให้ดำเนินการตามคำสั่งของศาลปกครองกลางกรณี พล.ต.อ.วุฒิ ยื่นฟ้องต่อศาล และต่อมาศาลได้มีคำสั่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ ก.ตร. ดำเนินการแก้ไขปัญหาการจัดลำดับอาวุโส ซึ่งที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ โดยการแก้ไขลำดับอาวุโสให้เป็นไปตามคำสั่งศาลปกครองกลาง อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการแก้ไขลำดับอาวุโสดังกล่าวแล้ว จะต้องมีการดำเนินการเยียวแก้ไขการแต่งตั้งย้อนหลังไปในปี 2554-2555 ให้เป็นไปตามแนวทางคำสั่งของศาล กล่าวคือ จะมีการคืนความชอบธรรมให้กับ พล.ต.อ.วุฒิ โดยการแก้ไขการแต่งตั้งโยกย้ายวาระประจำปี 2554 โดยให้ถอนคำสั่งแต่งตั้ง พล.ต.ท.อมรินทร์ ขึ้นเป็น ที่ปรึกษา (สบ10) และแต่งตั้งให้ พล.ต.ท.วุฒิ (ยศในขณะนั้น) ซึ่งมีอาวุโสสูงกว่าขึ้นเป็นที่ปรึกษา (สบ10) แทน และเมื่อมีการถอนการคำสั่งแต่งตั้ง พล.ต.ท.อมรินทร์ ดังกล่าวเกรงว่า พล.ต.ท.อมรินทร์ จะได้รับความเสียหาย จึงได้เปิดตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ10) และแต่งตั้งย้อนหลังให้ พล.ต.ท.อมรินทร์ เป็นที่ปรึกษา (สบ10) นอกจากนี้พบว่า พล.ต.ท.พีระ (ยศในขณะนั้น) มีลำดับอาวุโส สูงกว่าทั้ง 2 ท่าน จึงเปิดตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ10) และแต่งตั้งให้ พล.ต.ท.พีระ ขึ้นเป็นที่ปรึกษา (สบ10) ขณะที่ในวาระแต่งตั้งโยกย้ายประจำปี 2555 แต่งตั้งให้กำหนดตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. เพิ่ม 2 ตำแหน่ง และให้แต่งตั้ง พล.ต.อ.พีระ และ พล.ต.อ.วุฒิ เป็นรอง ผบ.ตร. โดยให้ถือว่าทั้ง 2 ท่าน ดำรงตำแหน่งรอง ผบ.ตร. ตั้งแต่ปี 2555

ขณะที่การกำหนดตำแหน่งรอง ผบช.ศชต. เพิ่มอีก 1 ตำแหน่ง ตามที่ ศชต. เสนอมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และมติ ก.ตร. ได้เห็นชอบแล้วนั้นซึ่งเดิมนั้น ศชต. มี รอง ผบช. จำนวน 5 ตำแหน่ง แต่ทาง กอ.รมน. ภาค 4 ได้ขอรองผบช.ศชต. ไปปฏิบัติหน้าที่เป็นการถาวร 1 ตำแหน่ง จึงทำให้การปฏิบัติราชการของ ศชต. ยังขาดรอง ผบช. อยู่ 1 ตำแหน่ง จึงได้ขอกำหนดตำแหน่งเพิ่ม

อนึ่ง ถ้าหากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ที่มี นายนิวัฒน์ธำรง เป็นประธาน พิจารณาเห็นชอบก็ต้องนำกลับมาขอความเห็นชอบต่อที่ประชุม ก.ตร. เพื่อแต่งตั้งเสร็จถึงส่งให้ กกต. พิจารณาต่อไป