“สนธิญาณ” แกนนำ กปปส. ขึ้นศาลให้การปฏิเสธ คดีอัยการฟ้องเป็นกบฏ-มั่วสุม รวม 8 ข้อหา ศาลนัดตรวจหลักฐาน 7 ก.ค.นี้ ส่วน “สกลธี” ศาลนัดรายงานตัวฝากขังและสอบคำให้การ 13 มิ.ย.นี้
ที่ห้องเวรชี้ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (12 พ.ค.) ศาลนัดสอบคำให้การจำเลย คดีหมายเลขดำ อ.1191/2557 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม อายุ 52 ปี และนายสกลธี ภัททิยกุล อายุ 37 ปี แกนนำ กปปส. เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏ, กระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หรือวิธีอื่นใดที่ไม่ใช่การกระทำในความมุ่งหมายตามรัฐธรรมนูญเพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือความไม่สงบในราชอาณาจักรฯ, อั้งยี่, ซ่องโจร, มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองโดยมีอาวุธ โดยเป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการ, เจ้าพนักงานสั่งให้เลิกการกระทำนั้นแต่ไม่เลิก, ยุยงให้ร่วมกันหยุดงาน การร่วมกันปิดงานงดจ้างเพื่อบังคับรัฐบาล, ร่วมกันบุกรุก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113, 116, 117, 209, 210, 215, 362, 364, 365 และร่วมกันขัดขวางเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง, ร่วมกันขัดขวางการปฏิบัติงานของ กกต. ความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มา ซึ่ง ส.ว. พ.ศ. 2550 มาตรา 76 และ 152 กรณีมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2556 - 8 พ.ค. 2557 จำเลยร่วมกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ปิด กทม.และตั้งเวทีปราศรัย 7 แห่ง ปิดกั้นการจราจร ขณะที่มีการประกาศ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และยังปราศรัยชักชวนประชาชนให้ออกมาขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พ้นจากตำแหน่ง และนำกองกำลังทั้งที่มีอาวุธและไม่มีอาวุธ บุกเข้าไปยึดสถานที่ราชการต่างๆ เพื่อไม่ให้รัฐบาลปฏิบัติหน้าที่ได้ รวมทั้งดำเนินการคัดค้านขัดขวางการเลือกตั้ง โดยยังเสนอจัดตั้งศาลประชาชนขึ้นพิจารณาลงโทษและริบยึดทรัพย์ อันเป็นการล้มล้างอำนาจบริหารและอำนาจตุลาการ
โดยสนธิญาณ จำเลยที่ 1 เดินทางมาพร้อมกับนายวิโรจน์ ภูมิศิริสวัสดิ์ ทนายความ ส่วน นายสกลธี ภัททิยกุล จำเลยที่ 2 ไม่ได้เดินทางมามาศาลเนื่องจากมีกำหนดจะรายงานตัวต่อศาลฝากขังต่อศาล วันที่ 12 มิ.ย.นี้
ทั้งนี้ ศาลอ่านและอธิบายคำฟ้องให้นายสนธิญาณ จำเลยที่ 1 ฟังแล้วสอบคำให้การ นายสนธิญาณ ให้การปฏิเสธ ศาลจึงนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 7 ก.ค.นี้ เวลา 13.30 น. ส่วนนายสกลธี จำเลยที่ 2 ศาลนัดสอบคำให้การว่าจะรับสารภาพ หรือปฏิเสธ ในวันที่ 13 มิ.ย.นี้ เวลา 09.00 น.