อัยการคดีพิเศษเตรียมสั่งคดี “เทพเทือก-แกนนำ กปปส.52 ราย” เป็นกบฏและข้อหาอื่นรวม 8 ข้อหาในวันพรุ่งนี้ ให้ทันฝากขัง “สนธิญาณ” ครั้งสุดท้าย หลังพิจารณาสำนวนของดีเอสไอเสร็จแล้ว
วันนี้ (7 พ.ค.) นายนันทศักดิ์ พูลสุข อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ และโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาสำนวนคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) รวม 58 ราย ร่วมกันชุมนุมผิดกฎหมายที่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ส่งสำนวนพยานหลักฐาน 217 แฟ้มและความเห็นสมควรสั่งฟ้องนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.กับพวก รวม 8 ข้อหาให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้อง เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า หลังรับมอบสำนวนการสอบสวนแล้ว คณะทำงานอัยการ ที่มีรองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ เป็นประธานฯ ก็ได้ร่วมกันพิจารณาพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามสำนวนจำนวนมาก และเรียกพนักงานสอบสวนดีเอสไอมาสอบถามเพื่อสรุปเหตุการณ์ที่ผู้ต้องหาแต่ละรายเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในแต่ละช่วงว่าใครทำอะไร อย่างไรบ้าง ประกอบกับอัยการได้ทำแผนผังสรุปพฤติการณ์ลักษณะความผิดผู้ต้องหาแต่ละรายไว้ด้วย เพื่อให้เกิดความสะดวกและรวดเร็วในการพิจารณาหลักฐานและองค์ประกอบความผิดในการกล่าวหา ส่วนที่ผู้ต้องหาได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมไว้ อัยการก็ได้พิจารณาครบถ้วนแล้ว
อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษกล่าวต่อว่า อัยการจะมีความเห็นในการสั่งคดีนี้ได้ภายในวันที่ 8 พ.ค.นี้ ก่อนที่จะครบกำหนดฝากขังนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ครั้งสุดท้ายในวันที่ 10 พ.ค.นี้ซึ่งเป็นวันหยุดราชการ ดังนั้น หากจะมีคำสั่งว่าฟ้องก็ต้องดำเนินการให้เสร็จภายในวันที่ 8 พ.ค.นี้ ขณะที่การพิจารณาเพื่อมีความเห็นว่าจะฟ้องหรือไม่ฟ้องคดีนี้ อัยการจะมีคำสั่งกับผู้ต้องหาทั้ง 52 ราย จาก 58 รายที่ดีเอสไอส่งสำนวนมาได้ ส่วนผู้ต้องหาอีก 6 รายนั้นดีเอสไอยังไม่ได้ส่งสำนวนมาให้ เนื่องจากผู้ต้องหายังไม่ได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยคณะทำงานอัยการ จะมีความเห็นสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องผู้ต้องหารายใด ในข้อหาใดบ้าง ก็ต้องรอฟังผลในวันที่ 8 พ.ค.นี้ แต่อัยการไม่ได้แจ้งหมายนัดให้ผู้ต้องหาทราบเพื่อมาฟังคำสั่ง เนื่องจากผู้ต้องหาอย่างนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม และนายสกลธี ภัททิยกุล ถือว่าตัวอยู่ในการควบคุมของศาลอยู่แล้วเพราะยังอยู่ระหว่างการฝากขัง ส่วนนายสุเทพและแกนนำบางรายก็มีหมายจับติดตัวอยู่แล้ว ดังนั้นหากอัยการจะมีความเห็นสั่งฟ้องจริงก็สามารถที่จะยื่นฟ้องคดีต่อศาลอาญาได้ ซึ่งหากศาลรับคดีไว้แล้วนัดสอบคำให้การจำเลย ศาลก็จะมีหมายแจ้งให้จำเลยทราบเพื่อมาศาลตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
