ชุดสืบสวน บก.น.9 ขออนุมัติหมายศาลจังหวัดตลิ่งชันเข้าตรวจยึดรถต้องสงสัยโจรกรรม-หนีไฟแนนซ์ จำนวน 27 คัน บริเวณลานจอดรถซอยบางแวก 154 ย่านบางแค ตรวจสอบหากพบเป็นรถผิดกฎหมายเตรียมขยายผลสืบสวนหาผู้กระทำผิดต่อไป
เมื่อเวลา 21.00 น.วานนี้ (24 เม.ย.) พ.ต.อ.พัฒนา ปรีชานันท์ ผกก.สส.บก.น.9 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บก.สส.บก.น.9 นำหมายค้นศาลจังหวัดตลิ่งชัน เลขที่ 48/2557 ลงวันที่ 24 เมษายน 2557 เข้าตรวจสอบที่บริเวณลานดินที่จอดรถติดกับบ้านเลขที่ 35/70 ซอยวัฒนเสวี (ซอยบางแวก 154) แขวงบางไผ่ เขตบางแค กทม. หลังจากทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีรถยนต์ต้องสงสัยได้มาโดยผิดกฎหมายจอดอยู่บริเวณดังกล่าวหลายคัน
ที่เกิดเหตุบริเวณลานดินกว้าง พบรถยนต์และรถกระบะจำนวน 27 คัน และรถบรรทุก 6 ล้อ 1 คัน นอกจากนี้ จากการตรวจสอบภายในบ้านหลังดังกล่าว พบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ เลกซัส รุ่น แอลเอส 460 แอล สีขาว ทะเบียน 2กต27 กทม. มูลค่าประมาณ 12 ล้านบาท และรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นเวลไฟร์ (Vellfire) สีขาว ป้ายแดง ทะเบียน น 3232 กทม. มูลค่า 3 ล้านบาทจอดอยู่
พ.ต.อ.พัฒนากล่าวว่า การตรวจค้นครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่า ที่บ้านหลังดังกล่าวมีรถยนต์ต้องสงสัยว่าได้มาจากการโจรกรรม หรือได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงขออำนาจศาลเพื่อขอหมายค้น จากนั้นจึงนำชุดสืบสวน บก.สส.บก.น.9 นำหมายค้นเข้าตรวจสอบ จากการตรวจสอบพบรถยนต์ทั้งเก๋งและกระบะจอดอยู่ที่ลานดินติดกับบ้านจำนวนรวม 27 คัน รถบรรทุก 6 ล้ออีก 1 คัน อีกทั้งภายในบ้านยังมีรถหรูที่นำเข้าจากต่างประเทศแบบหนีภาษี 2 คัน คือ รถยนต์เก๋งยี่ห้อเลกซัส สีขาว ในประเทศไทยขายอยู่ที่ราคา 12 ล้านบาท และรถตู้ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นเวลไฟร์ (Vellfire) สีขาว ป้ายแดง ราคาประมาณ 3 ล้านบาท โดยมีนายกิตติพจน์ (ขอสงวนนามสกุล) เป็นผู้ดูแลบ้านและรถทั้งหมด หลังเข้าตรวจค้นเจ้าหน้าที่จึงทำการอายัดรถทั้งหมดเพื่อนำไปตรวจสอบที่มาที่ไปและเจ้าของที่แท้จริง รวมทั้งตรวจสอบประวัติของนายกิตติพจน์
พ.ต.อ.พัฒนากล่าวต่อว่า เชื่อว่ารถที่จอดไว้บริเวณลานดินทั้ง 28 คันเป็นรถติดไฟแนนซ์ที่นายกิตติพจน์รับจำนำมาโดยที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการรับจำนำ และยังเรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราเกินที่กฎหมายกำหนดซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.บ.โรงรับจำนำ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทำการอายัดรถทั้งหมดไว้เพื่อนำไปตรวจสอบเท่านั้น โดยยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา หรือจับกุมใครแต่อย่างใด อย่างไรก็ดี หากผลการตรวจสอบพบว่ามีการกระทำความผิดก็จะแจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
