นครศรีธรรมราช - รองผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช สั่งตรวจสอบที่มาของอาวุธปืนสงครามของทางราชการที่ยึดได้ หลังจับกุมวัยรุ่นครอบครองอาวุธปืนเอชเคตราโล่ เบื้องต้นพบเป็นของสถานีตำรวจแห่งหนึ่งในสังกัดตำรวจภูธรภาค 8
วันนี้ (25 เม.ย.) พ.ต.อ.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ตรวจสอบอาวุธปืนยาวเอชเค 33 ซึ่งมีเครื่องหมายตราโล่ ซึ่งเป็นอาวุธปืนสงครามที่ใช้ในราชการตำรวจ โดยปืนยาวกระบอกนี้เป็นของกลางที่ พ.ต.อ.เชาวศิลป์ บุญประดิษฐ์ ผกก.สส.กก.สส.ภ.นครศรีธรรมราช พ.ต.ท.ชูยศ จินดานคร สว.สส.กก.สส.ภ.นครศรีธรรมราช โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสืบทราบว่า นายวุฒิชัย บัวเพชร อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 ถนนพัฒนาการคูขวาง อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช มีอาวุธปืนสงครามร้ายแรงไว้ในครอบครอง และมักจะเอามายิงเล่นสร้างความหวาดกลัวให้แก่เพื่อนบ้าน
หลังจากเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนจนชัดเจน จึงขอหมายค้นจากศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ดังกล่าว โดยพบว่า มีของกลางที่ค้นได้คืออาวุธปืนยาวเอชเค 33 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน จำนวน 169 นัด บรรจุแมกกาซีนพร้อมใช้งาน ปืนลูกซองสั้น 1 กระบอก พร้อมกระสุน
ซุกซ่อนอยู่ในห้องของมารดานายวุฒิชัย ขณะที่นายวุฒิชัย รับว่าเป็นผู้ครองครองอาวุธปืนดังกล่าว พร้อมทั้งเครื่องกระสุนทั้งหมด และอาวุธปืนลูกซองสั้น โดยให้การรับสารภาพว่าซื้อมาจากเพื่อนที่รู้จักกันในวงเหล้าในราคา 4 หมื่นบาท ส่วนกระสุนปืนนั้นเป็นของแถม
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพบว่า เป็นอาวุธปืนตราโล่ของตำรวจ ถูกขูดลบหมายเลขทะเบียน แต่ยังคงมีหมายเลขประจำปืน และเมื่อตรวจสอบเลขดังกล่าวพบว่า เป็นอาวุธปืนสงครามของทางราชการที่อยู่ในความดูแลของสถานีตำรวจแห่งหนึ่งในเขตตำรวจภูธรภาค 8
ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และทำรายงานส่งผู้บังคับบัญชาระดับสูงเพื่อตรวจสอบคลังอาวุธ และตั้งกรรมการสอบสวนดำเนินการทางอาญาต่อเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ ขณะที่นายวุฒิชัย ได้ถูกตั้งข้อหามีอาวุธปืนสงครามและเครื่องกระสุนที่ทางราชการไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และอาจพิจารณาข้อหาเพิ่มเติมในภายหลังหากการตรวจสอบที่มาของอาวุธปืนมีความชัดเจน