xs
xsm
sm
md
lg

คุก 13 ปี 4 เดือน สองโจรปาดคอชิงทรัพย์นักข่าวไทยโพสต์

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายปรีชา วารารัมย์ อายุ 20 ปี และนายศรัณ ชูนิ่ม อายุ 23 ปี  จำเลยคดีพยายามฆ่าและชิงทรัพย์
จำคุก 13 ปี 4 เดือน สองโจรปาดคอชิงทรัพย์นักข่าวไทยโพสต์ ซอยเสือใหญ่ หลังมหาวิทยาลัยจันทรเกษม แต่จำเลยรับสารภาพลดเหลือ 6 ปี 8 เดือน ส่วนมือมีดเจอเพิ่มโทษคดีเก่า โดนจำคุก 10 ปี

วันนี้ (24 เม.ย.) ที่ห้องพิจารณาคดี 801 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำ 2138/2556 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายปรีชา วารารัมย์ อายุ 20 ปี และนายศรัณ ชูนิ่ม อายุ 23 ปี เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธมีด โดยใช้ยานพาหนะเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสฯ และพยายามฆ่าผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 339, 340

คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2556 เวลากลางคืนที่บริเวณซอยรัชดา 36 (ซอยเสือใหญ่อุทิศ) หลังมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม จำเลยทั้งสองได้นำมีดพร้า 1 เล่ม ความยาว 1 ฟุต ติดตัวไปเป็นอาวุธแล้วร่วมกันชิงโทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง ราคา 1,000 บาท ของนายสุวัฒน์ ปัญจวงศ์ 30 ปี ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ประจำศาลยุติธรรม โดยจำเลยทั้งสองได้ใช้มีดดังกล่าวฟันเข้าที่ลำคอโดยมีเจตนาฆ่า บาดแผลฉีกขาดยาวประมาณ 7 เซนติเมตร ลึกถึงขั้นกล้ามเนื้อ เส้นเลือดดำฉีกขาด เส้นประสาทคู่ที่ 5 ได้รับบาดเจ็บ แต่ผู้เสียหายได้รับการรักษาจากแพทย์ได้ทัน จึงไม่ถึงแก่ความตายตามเจตนาของจำเลยทั้งสอง แต่เป็นเหตุได้รับอันตรายสาหัสจนไม่สามารถประกอบกิจกรรมได้ตามปกติ

ต่อมาวันที่ 21 มี.ค. 2556 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมจำเลยทั้งสองได้พร้อมโทรศัพท์ของผู้เสียหาย และอาวุธมีด 1 เล่ม ในชั้นสอบสวนจำเลยให้การรับสารภาพ เหตุเกิดที่แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม. จึงขอให้พิพากษาลงโทษจำเลยตามกฎหมาย และสำหรับ นายศรัณ จำเลยที่ 2 เนื่องจากเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุด จำคุก 6 เดือน คดีร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และจำคุก 8 เดือน คดีครอบครองยาบ้าของศาลจังหวัดนนทบุรี ซึ่งจำเลยได้กระทำผิดในคดีดังกล่าวขณะมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี แม้ว่าจำเลยพ้นโทษทั้งสองคดีมาแล้วเมื่อปี 2552 และปี 2555 ตามลำดับ แต่กลับมากระทำผิดในคดีอาญาที่ฟ้องนี้ภายในระยะเวลา 5 ปี นับจากวันพ้นโทษจากคดีเดิม จึงขอให้ศาลเพิ่มโทษจำเลยที่สองตามกฎหมายด้วย โดยจำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพในข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์ แต่ให้การปฏิเสธในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่า ขณะที่นายสุวัฒน์ ผู้เสียหายได้ขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมด้วย

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์และคำรับสารภาพของจำเลยแล้วเห็นว่า โจทก์มี รปภ.ที่เห็นเหตุการณ์มาเบิกความยืนยันและมีนายแพทย์ รพ.ลาดพร้าวที่ทำการตรวจรักษาเป็นพยานว่าได้ทำการตรวจร่างกายและรักษาบาดแผล ประกอบกับมีการนำชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพของจำเลยทั้งสองทันทีที่ถูกจับกุม ทั้งในชั้นสอบสวนและชั้นพิจารณาคดี ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าจำเลยที่ 2 ได้ใช้มีดพร้าฟันเข้าที่บริเวณลำคอของโจทก์ร่วม บาดแผลฉีกขาดยาวประมาณ 7 เซนติเมตร ลึกถึงเส้นประสาทและโดนอวัยวะสำคัญจนอาจทำให้ถึงขั้นนเสียชีวิตได้ เห็นว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง ตาม ป.อาญา มาตรา 288, 339, 340

พิพากษาลงโทษในความผิดฐานพยายามฆ่า จำคุกจำเลยทั้งสองเป็นเวลา 13 ปี 4 เดือน ส่วนจำเลยที่ 2ให้เพิ่มโทษจากคดีเก่า รวมโทษจำคุกเป็น 19 ปี 12 เดือน แต่จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีลดโทษกึ่งหนึ่ง คงเหลือจำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลา 6 ปี 8 เดือน ส่วนจำเลยที่ 2 คงเหลือจำคุก 10 ปี และให้จำเลยทั้งสองร่วมชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ร่วม เป็นเงินจำนวน 200,000 บาท

ภายหลังฟังคำพิพากษา นายสุวัฒน์ ผู้เสียหายเปิดเผยว่าจะปรึกษาทนายความเพื่ออุทธรณ์คดีต่อไป เนื่องจากมองว่าโทษที่จำเลยได้รับยังเบาเกินกว่าพฤติการณ์ที่จำเลยได้กระทำและที่ผ่านมาจำเลยก็ไม่เคยขอโทษหรือเยียวยาใดๆ ทั้งสิ้น อีกทั้งบาดแผลถึงแม้ภายนอกดูเหมือนจะหายดีแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถทำงานประกอบอาชีพได้ตามปกติ ทุกวันนี้ยังต้องทำกายภาพบำบัดและเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง
นายสุวัฒน์ ปัญจวงศ์ 30 ปี ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์

กำลังโหลดความคิดเห็น