ศาลฎีกาไม่รับพิพากษาหนุ่มสกุล “จักกะพาก” ฉกนาฬิกานักแข่งรถวันเมคเรซชื่อดัง ระบุคดีไม่เป็นสาระแก่การพิจารณา ผลจึงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ยกฟ้อง
ที่ศาลอาญา วันนี้ (23 เม.ย.) ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีที่พนักงานอัยการกองคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ฟ้องนายเกียงไกร จักกะพาก อายุ 35 ปี หนุ่มนามสกุลพ้องกับ “ปิ่น จักกะพาก” นักเทกโอเวอร์ที่โด่งดังคดีหุ้นบริษัทเงินลงทุนหลักทรัพย์เอกธนกิจ โดยนายเกรียงไกรถูกฟ้องเป็นจำเลยฐานลักทรัพย์นายจ้างและในเคหสถาน มาตรา 335, 334 คดีนี้ศาลชั้นต้นลงเห็นว่ามีความผิดฐานลักทรัพย์ในเคหสถาน ลักทรัพย์นายจ้าง ลักทรัพย์โดยผ่านสิ่งกีดกั้น ลงโทษจำคุก 8 ปี ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน
แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง โดยคดีนี้โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 2550 เวลากลางวัน จำเลยบุกรุกบ้านเลขที่ 80/7 ม.121 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม. นายพาศนินทร์ ตู้จินดา นักแข่งรถวันเมคเรซชื่อดัง ที่มีบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่เป็นสปอนเซอร์ นายจ้างของนายเกรียงไกร โดยเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนแล้วลักเอานาฬิกา 1 เรือน ราคา 300,000 บาทไป ศาลชั้นต้นสืบพยานประกอบคำรับสารภาพ และพิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง แต่คำให้การนำว่ามีประโยชน์อยู่บ้าง ลดโทษให้ 1 ใน 3 ตาม ป.อาญา มาตรา 78 เหลือจำคุก 2 ปี 8 เดือน ต่อมาโจทก์ยื่นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง จากนั้นโจทก์ได้ยื่นฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้วมีคำสั่งว่า ฎีกาของโจทก์ไม่เป็นสาระอันควรแก่การพิจารณา ศาลฎีกาไม่รับคดีไว้พิจารณาพิพากษา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 19 จึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดี