ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มอบหลักฐานเอาผิดเพิ่มพระเก๋แต่งเลียนแบบ สวมวิกเป็นหญิงมีพฤติการณ์เหยียบย่ำศาสนา เป็นภาพที่โพสต์ลงเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า “นู๋ร๊ากผัวเขา ผัวเขาก็ร๊ากนู๋”
วันนี้ (22 เม.ย.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 14.00 น. นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. เพื่อมอบหลักฐานเพิ่มเติม ภายหลังเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลที่ใช้ชื่อว่า “นู๋ร๊ากผัวเขา ผัวเขาก็ร๊ากนู๋” เจ้าของฉายา “นาตาลีร้อยหน้า” ซึ่งปรากฏตามภาพถ่ายเผยแพร่ในเฟซบุ๊ก และปรากฏเป็นข่าวจากการสวมวิกผมแต่งกายเป็นหญิงออกเที่ยวกลางคืน และมีพฤติการณ์ที่ไม่เหมาะสมอื่นๆ อีกหลายกรณีนี้ ในความผิดฐานแต่งกายเลียนแบบพระภิกษุ สามเณร หรือนักบวชในศาสนาโดยมิชอบ, ดูหมิ่นเหยียดหยามศาสนาโดยกระทำด้วยประการใดๆ แก่วัตถุหรือสถานที่อันเป็นที่เคารพในทางศาสนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 206 และ 208
นายสงกานต์ กล่าวว่า หลังจากเมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา ได้นำหลักฐานเป็นภาพถ่ายรวม 42 ภาพ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง เข้าแจ้งความดำเนินคดีในกรณีที่เกิดขึ้นดังกล่าวแล้วนั้น ในวันเดียวกันนี้ ตนได้พบหลักฐานเพิ่มเติม ประกอบด้วย ตั๋วเครื่องบินสายการบินไทย เดินทางระหว่างกรุงเทพฯ - ขอนแก่น เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2557 ในชื่อของพระเจษฎา (สงวนนามสกุล), ภาพถ่ายของบุคคลที่ใช้ชื่อในเฟซบุ๊กว่า “นู๋ร๊ากผัวเขา ผัวเขาก็ร๊ากนู๋” หรือนาตาลีร้อยหน้า อีกกว่า 10 รูป, ตัวอย่างบัตรประชาชนพระ ตัวอย่างใบสุทธิพระสงฆ์ จึงนำมามอบให้พนักงานสอบสวนเพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินคดี
นายสงกานต์ กล่าวต่อว่า สำหรับหลักฐานต่างๆ ที่นำมาครั้งนี้ น่าจะเป็นส่วนที่พนักงานสอบสวนยังไม่ได้รับหรือสืบทราบมาก่อน เช่น ชื่อของผู้ที่ใช้นามแฝงว่า “นู๋ร๊ากผัวเขา ผัวเขาก็ร๊ากนู๋” ว่าคือพระเจษฎา และเมื่อตนได้ขอคัดสำเนาทะเบียนราษฎรจากสำนักงานเขตบางเขน ก็ทราบว่า นายเจษฎา มีอายุเพียง 19 ปี ไม่สามารถอุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์ได้ เนื่องจากต้องมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์เสียก่อน ส่วนวัดที่มีข้อมูลการบวชครั้งแรกอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในย่านฝั่งธนบุรี แต่ปัจจุบันอาศัยอยู่ที่ จ.ขอนแก่น
นายสงกานต์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ข้อความที่ถูกโพสต์ไว้ในเฟซบุ๊ก ยังมีการกล่าวถึงการรับกิจนิมนต์แล้วมีเงินเยอะ สวดทีก็ได้ห้องพระใหม่ ฯลฯ ซึ่งเข้าข่ายความผิดอย่างชัดเจน การได้หลักฐานสำคัญเหล่านี้ น่าจะช่วยลดขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวน และตนเชื่อว่ากรณีนี้ค่อนข้างมีความชัดเจน และมีความสมบูรณ์เกี่ยวกับพฤติการณ์ในการกระทำความผิด หลังจากนี้คงหมดหน้าที่ของตนแล้วคงปล่อยให้เป็นการดำเนินการของตำรวจต่อไป
นายสงกานต์ กล่าวว่า สำหรับอีก 3 กรณี ประกอบด้วย กรณีพบชายอายุระหว่าง 17-20 ปี สวมอังสะ ใช้ปากอมอวัยวะเพศ ที่ จ.เชียงใหม่ กรณีภาพชายอายุระหว่าง 18-25 ปี สวมอังสะประกวดเทพีเวทีต่างๆ ที่ จ.สุรินทร์ และกรณีของนายศรัณย์ ฉุยฉาย หรือ “อั้ม เนโกะ” ที่แสดงกิริยาไม่เหมาะสมต่อพระพุทธรูป ที่ได้แจ้งความดำเนินคดีไว้เช่นเดียวกันนั้น ตนอยู่ระหว่างเร่งหาข้อมูลและหลักฐานต่างๆ เพิ่มเติม อย่างไรก็ดี หลังจากได้ติดตามความคืบหน้าจากพนักงานสอบสวน จึงทราบว่าทางตำรวจเองก็สืบสวนสอบสวนได้ข้อมูลในรายละเอียดต่างๆ มาพอสมควรแล้ว
