xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ล้อมจับโจรจี้ชิงแท็กซี่นาน 11 ชม. จนยอมมอบตัว

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายบุญรุ่ง โพธิ์เชิด ผู้ต้องหา
ตร.บางปะหัน กว่า 20 นาย พร้อมชุดปราบไพรีอริศัตรูพ่าย ตำรวจภูธรภาค 1 ร่วมกันกดดันปิดล้อมโจรจี้ชิงทรัพย์รถแท็กซี่โดยมีอาวุธปืน จนยอมมอบตัว หลังถูกปิดล้อมนานกว่า 11 ชั่วโมง

จากกรณีที่ นายบุญรุ่ง โพธิ์เชิด อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58 หมู่ที่ 11 ต.ท่างาม อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ 18/2557 ลงวันที่ 18 เมษายน 2557 ได้ก่อเหตุชิงทรัพย์รถแท็กซี่ ยี่ห้อโตโยต้า สีชมพู-ขาว ทะเบียน ทศ 4345 กทม. เมื่อคืนวันที่ 16 เมษายน 2557 เวลาประมาณ 04.20 น. ได้เงินสดไป 1,200 บาท ก่อนนำผู้เสียหายทื้งไว้ที่ย่านบางปะหัน ส่วนผู้ต้องหาหลบหนีซ่อนที่หมู่บ้านเอื้ออาทร คลอง 10 ซอย 7 หมู่ที่ 2 ต.บึงสนั่น อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าปิดล้อมนานกว่า 11 ชั่วโมง ผู้ต้องหาจึงยอมมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงแต่อย่างใด

วันนี้ (20 เม.ย.) พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ กลิ่นขจร ผกก.สภ.บางปะหัน พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บางปะหัน กว่า 20 นาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบไพรีอริศัตรูพ่าย ของตำรวจภูธรภาค 1 ได้ร่วมกันเข้าจับกุมตัวนายบุญรุ่ง ในข้อหาชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้อาวุธปืน

ด้าน พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ เผยว่า เมื่อคืนวันที่ 16 เม.ย. 57 นายบุญรุ่ง ได้ขับรถแท็กซี่ไปเฉี่ยวชนกัน รถ จยย. ที่บริเวณ หน้านิคมอุตสาหกรรมนวนคร (ทราบภายหลัง) ก่อนที่จะทิ้งรถไว้ในที่เกิดเหตุ แล้วมาขึ้นรถแท็กซี่ สีชมพู-ขาว หมายเลขทะเบียน ทศ 4345 กทม. ของ สหกรณ์ราชพฤกษ์แท็กซี่ จำกัด โดยทำทีว่าเป็นตำรวจ ให้ช่วยติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุเฉี่ยวชนรถแล้วหลบหนี ก่อนที่จะใช้อาวุธปืนจี้บังคับให้คนขับลงตรงบริเวณย่าน อ.บางปะหัน ก่อนจะนำรถไป ส่วนคนขับรถแท็กซี่ได้เข้าแจ้งความไว้ที่โรงพัก

พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ กล่าวต่อว่า จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้แกะรอยเพื่อตามหาตัวคนร้าย จึงได้พบว่าผู้ก่อเหตุชิงทรัพย์แท็กซี่นั้นน่าจะเป็นนายบุญรุ่ง เพราะได้มีการทำสัญญาเช่ารถไว้กับคันที่เกิดเหตุชน จยย. โดยมีภรรยาเป็นคนค้ำประกัน จนเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถแกะรอยจนมาถึงที่บริเวณหมู่บ้านเอื้ออาทร คลอง 10/1 บ้านเลขที่ 100/55 ซ.7 ม.2 ต.บึงสนั่น อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี แต่ผู้ต้องหาไม่อยู่บ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเฝ้ารอ จนเมื่อเวลา 16.30 น. ของวันที่ 19 เม.ย. 57 ผู้ต้องหาได้ขับรถแท็กซี่ สีชมพู-ขาว หมายเลขทะเบียน ทศ 4345 กทม. ของ สหกรณ์ราชพฤกษ์แท็กซี่ จำกัด ตรงกับที่ได้แจ้งหายไว้เข้ามาจอดที่ข้างบ้าน ก่อนที่จะลงรถมากับหญิงสาว 1 คน แล้วเดินหายเข้าไปในบ้าน

จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ประสานขอกำลังชุดสืบสวนให้มาช่วยกันเข้าจับกุม เพราะว่าคนร้ายมีอาวุธปืน จนเมื่อเวลา 18.00 น. ของวันที่ 19 เมษายน 2557 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ทำการบุกเข้าจับกุม แต่คนร้ายไหวตัวโดดหนีขึ้นอยู่บนเพดาน โดยปล่อยให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมควบคุมตัวหญิงสาวที่อยู่ภายในบ้าน ก่อนสอบสวนพบว่าเป็นอดีตแฟนเก่าที่เพิ่งกลับมาคบกัน หลังจากที่เลิกกับภรรยา แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่จึงได้กันไว้เป็นพยาน ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะถอยลงมาดักซุ่มอยู่ด้านล่าง ก่อนที่จะมีการเจรจาให้ยอมมอบตัว แต่ก็ไม่เป็นผล

จนกระทั่ง 00.05 น. ของวันที่ 20 เม.ย. 57 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้กดดันผู้ต้องหาโดยการใช้ไม้ทุบที่กระจกบานเกล็ดด้านหน้าจนแตก ก่อนที่ผู้ต้องหาจะดันตู้เสื้อผ้ามาบังไว้ ก่อนที่ผู้ต้องหาจะหย่อนกระดาษเขียนข้อความว่า ถ้ากดดันตนมากๆ ก็จะเผาตัวตาย เมื่อเห็นดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ถอยลงมาเพื่อวางแผนกันใหม่ พร้อมทั้งได้ประสานรถน้ำของเทศบาลเมืองสนั่นรักษ์ ให้มารอหากมีเหตุการณ์รุนแรง จนเมื่อเวลา 03.30 น. คนร้ายได้ส่งกระดาษลงมาอีกว่าจะยอมมอบตัว แต่เป็นในตอนเช้า แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ยอมย่อท้อได้พยายามเจรจา จนรุ่งเช้าคนร้ายก็ยังไม่ยอมลงมา จึงได้ประสานไปยังหน่วยปราบชุด “ปราบไพรีอริศัตรูพ่าย” ของตำรวจภูธรภาค 1 ให้มาช่วยยุติปัญหา จนถึงเวลา 07.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดปราบไพรีฯได้ทำการจู่โจม แต่คนร้ายก็ยังหลบหนีไปบนเพดาน ก่อนที่จะมีการเจรจาจนยอมโยนปืนขนาด .38 ลงมา และยอมมอบตัวแต่โดยดี ก่อนที่จะนำตัวไปสอบสวนและลงประจำวันที่ สภ.ธัญบุรี พร้อมทั้งนำตัวไปสวบสวนต่อที่ สภ.บางปะหัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น