บช.น. เร่งคลี่คลายคดีแก๊งโจรต่างชาติฉกนาฬิกามองต์บลังกลางห้างชื่อดัง คาดเป็นฝีมือชาวจีนหรือเวียดนาม แต่ยังไม่ยืนยันว่าคนร้ายหลบหนีออกไปนอกประเทศแล้วหรือไม่ คาดไม่เกินสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจนมากกว่านี้
วันนี้ (17 เม.ย.) เมื่อเวลา 14.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สืบศักดิ์ พันธุ์สุระ ผบก.น.5 พ.ต.ต.กฤษดา มานะวงศ์สกุล สว.สส.สน.ลุมพินี พร้อมชุดสืบสวน สน.ลุมพินี ร่วมกันประชุมคลี่คลายคดีที่แก๊งคนร้ายชาวต่างชาติเข้าไปขโมยนาฬิกาหรู ยี่ห้อมองต์บลัง มูลค่า 10 ล้านบาท ภายในห้างสรรพสินค้าเกษร พลาซ่า แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน เมื่อวันที่ 15 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยใช้เวลาประชุม 1 ชั่วโมง
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า คดีนี้ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ รอง ผบช.น. ลงไปติดตามอย่างใกล้ชิด เบื้องต้นได้มีการตรวจสอบภาพจากล้องวงจรปิดตั้งแต่บริเวณร้านนาฬิกา ไปจนถึงบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ โดยอยู่ระหว่างรวบรวมรายละเอียดจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) รวมถึงสายการบินต่างๆ ซึ่งตำรวจมีข้อมูลผู้ต้องสงสัยแล้ว คาดว่าเป็นชาวจีน 3 คน แต่ยังไม่ยืนยันว่ามีชาวไทยเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ส่วนการออกหมายจับอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานให้รอบคอบกว่านี้ก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่าคนร้ายเดินทางออกนอกประเทศไปแล้วใช่หรือไม่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า ยังไม่ยืนยันว่าคนร้ายออกนอกประเทศ แต่พยานหลักฐานพบว่าหลังก่อเหตุแล้วคนร้าย 2 คน ขึ้นรถแท็กซี่ไปลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ แต่มีบางคนที่ลงระหว่างทาง แสดงว่าอาจจะยังไม่ได้ออกนอกประเทศไปทั้งหมด ส่วนคนร้ายที่ไปสนามบินสุวรรณภูมิ ได้สั่งการให้เร่งตรวจสอบ 3 จุดสำคัญ และให้รายงานในวันที่ 18 เม.ย. นี้
ด้าน พล.ต.ต.ฐิติราช กล่าวว่า จากแนวทางการสืบสวนยังไม่สามารถสรุปได้ว่าคนร้ายเป็นชาวจีนหรือเวียดนาม เพราะคนร้ายอาจจะพูดภาษาอื่น เพื่อลวงผู้เสียหายให้เข้าใจผิด และเกิดความสับสนในการสืบสวน นอกจากนี้แม้ว่าภาพจากกล้องวงจรปิดจะเห็นว่าคนร้ายเดินทางออกนอกประเทศแล้ว ตำรวจก็ยังไม่สรุปว่าเดินทางไปที่ใด คนร้ายอาจจะเดินทางไปต่างจังหวัด เช่น พัทยา ภูเก็ต ก็เป็นได้ ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจน ต้องขอเวลารวบรวมพยานหลักฐานอีกสักระยะ
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าคนร้ายมีการมาดูลาดเลาก่อนหน้านี้ และตั้งใจที่จะขโมยนาฬิกายี่ห้อมองต์บลังโดยเฉพาะหรือไม่ พล.ต.ต.ฐิติราช กล่าวว่า ยังไม่ชัดเจน อยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่อาจจะเป็นการวางแผนประทุษกรรมก็เป็นไปได้ ขณะนี้ได้ให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำเจ้าของร้าน และพนักงานหน้าเคาน์เตอร์ เกี่ยวกับรายละเอียดของนาฬิกายี่ห้อดังกล่าวอย่างละเอียดอีกครั้งว่าราคา 10 ล้านจริงหรือไม่ และนำเข้ามาขายที่ประเทศไทยเมื่อใด คดีนี้ไม่เกินในสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจนทั้งหมด และน่าจะขออำนาจศาลออกหมายจับคนร้ายได้