xs
xsm
sm
md
lg

แกะรอยฆาตกรฆ่า “น้องจันลา”

เผยแพร่:   โดย: *-*

ตัว น้องจันลา เด็กหญิงวัย 7 ขวบ ชาวกัมพูชา
แกะรอยฆาตกรฆ่า “น้องจันลา” โดยธีรดา ศิริมงคล

เหตุการณ์ฆาตกรโหดลวงฆ่าเด็ก กลายเป็นข่าวสะเทือนขวัญขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 27 มี.ค. เมื่อทางมูลนิธิกระจกเงาเข้าร้องขอความช่วยเหลือจาก พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา สบ 10 ในฐานะประธานศูนย์บริหารคนหายและจัดการศพนิรนาม ให้ช่วยตามหาตัว “น้องจันลา” เด็กหญิงวัย 7 ขวบ ชาวกัมพูชา ลูกสาวคนงานก่อสร้างหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่หายตัวไปอย่างลึกลับ บริเวณแคมป์คนงานก่อสร้างหมู่บ้านภายในซอยพหลโยธิน 52 ในพื้นที่รับผิดชอบ สน.บางขน

ก่อนหน้านี้ นายเนส และนางไล ยง ผู้เป็นพ่อและแม่เล่าว่าน้องจันลาหายตัวไปอย่างลึกลับในช่วงเวลากลางวันของวันที่ 21 มี.ค. ขณะที่พ่อและแม่ต้องออกไปทำงานตามปกติโดยจะทิ้งให้ลูกสาวให้เล่นอยู่เพียงลำพังอยู่ในที่พักหรือบริเวณใกล้ๆ เท่านั้น ไม่เคยออกไปไกล หลังออกตามหาตัวจนทั่ว เมื่อไม่พบจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความดังกล่าว โดยในจิตใจลึกๆของผู้เป็นพ่อและแม่ ยังหวังว่าน้องจันลายังคงมีชีวิตอยู่

ด้านเจ้าหน้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยสุนัข (K9) และมูลนิธิกระจกเงา ต่างระดมกำลังเร่งค้นหาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งมาประสบความสำเร็จ เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 2 เม.ย.ขณะลงพื้นที่ปูพรมค้นหาที่บริเวณป่ากกซึ่งอยู่ห่างจากที่พักคนงานก่อสร้างเพียง 70 เมตร เนื่องจากพบว่าบริเวณป่ากกมีลักษณะเพิ่งถูกโค่นลงมา อีกทั้งยังมีกลิ่นเหม็นจากบริเวณดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการรื้อโดยละเอียด

ในเวลาต่อมาก็พบศพ “น้องจันลา” อยู่ในลักษณะคว่ำหน้าลงคล้ายจมน้ำเสียชีวิต สวมใส่เสื้อสีส้ม ซึ่งเป็นชุดที่น้องจันลาใส่ก่อนหายตัวไป แต่ไม่พบกางเกง นอกจากนี้ ในบริเวณใกล้ๆ กันนั้นยังพบผ้าถุงของแม่น้องจันลาและสายเปลอีกด้วย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า น้องจันลาน่าจะเสียชีวิตก่อนที่คนร้ายจะนำร่างมาทิ้งที่ป่ากกเพื่ออำพรางคดี โดย พล.ต.อ.จรัมพรคาดว่าเหยื่อถูกฆาตกรรมในบ้านพัก เนื่องจากช่วงเวลาเกิดเหตุคาดว่าน้องจันลาอยู่บ้านพัก และเมื่อบิดามารดาออกไปทำงานก็ยังมีคนงานที่เมาสุรา ประกอบกับเชือกที่รัดคอ เข็มขัดผ้า ตรงกับของมารดาที่อยู่ในห้อง ก่อนที่จะนำศพไปทิ้งเพื่ออำพรางคดี โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่พุ่งเป้าไปที่คนงานก่อสร้างซึ่งได้ทำการสอบปากคำทั้งหมดรวมทั้งตรวจประวัติว่าเคยมีคดีเกี่ยวกับทางเพศหรือไม่ รวมทั้งตรวจหาดีเอ็นเอว่ามีความเชื่ยมโยงกันหรือไม่

หลังการพบศพน้องจันลาทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งร่างน้องให้แพทย์สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ผ่าพิสูนจ์อีกครั้ง และทางแพทย์สถาบันนิติเวช แจ้งว่าทำการผ่าชันสูตร ศพน้องจันลา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผลเบื้องต้น น้องเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ โดยมีสายผ้ารัดคอ ส่วนร่องรอยการถูกล่วงละเมิดทางเพศไม่สามารถระบุได้เนื่องจากร่างมีสภาพเน่าเปื่อย มีเพียงข้อมูลในที่เกิดเหตุที่เด็กไม่ได้สวมกางเกง

แม้การจากไปของน้องจันลา จนกระทั่งพบศพนานกว่า 3 สัปดาห์แล้ว แต่ยังไม่สามารถจับตัวฆาตกรโหดรายนี้มาดำเนินคดีได้ แต่ชุดสืบสวนสอบสวนไม่ได้ละความพยามยาม หลังจากได้เรียกสอบปากคำคนงานทั้ง 12 คน และตรวจหาดีเอ็นเอ จนขณะนี้เหลือผู้ต้องสงสัยอยู่เพียง 3 ราย ซึ่งชุดสืบสวนกำลังสอบเค้นอย่างหนัก พร้อมทั้งเก็บตัวอย่างลายนิ้วมือของผู้ต้องสงสัย เพื่อเทียบกับลายนิ้วมือที่ปรากฏในห้องพักของน้องจันลา มาเปรียบเทียบกัน และจะทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

เชื่อว่าสุดท้ายชุดสืบสวนคงจะสามารถคลี่คลายคดี และจับตัวฆาตกรโหดรายนี้มารับโทษให้สาสมกับความผิดที่ได้ก่อไว้ เนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญและเป็นภัยต่อสังคมอย่างร้ายแรง และไม่แน่ว่าฆาตกรรายนี้ อาจมีพฤติกรรมไม่ต่างจากคดี “ไอ้หนุ่ย ติ๊งต่าง” ฆาตกรต่อเนื่อง ลวงฆ่าข่มขืน “น้องการ์ตูน” เด็กวัย 6 ขวบกลางเมืองกรุงเมื่อปลายปีที่แล้ว จนตกเป็นข่าวสะเทือนขวัญที่สร้างความวิตกให้กับผู้ปกครองที่มีบุตรหลานอยู่ในวัยเยาว์

เพราะหลังจับกุม “ไอ้ติ๊งต่าง” ให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุฆ่าข่มขืนเด็กในลักษณะดังกล่าวมาก่อนหน้านี้แล้ว ทำให้หน่วยงานทั้งภาครัฐ-เอกชนต่างหันมาตื่นตัวกับกระแสเด็กหายกันทั่วหน้า โดยเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดตั้งศูนย์บริหารคนหายและจัดการศพนิรนาม และสั่งให้ทุกโรงพักรับแจ้งความคนหายทันที เพื่อนำเข้าสู่ระบบศูนย์บริหารคนหายโดยไม่ต้องรอให้คนหายล่วงเลยถึง 24 ชั่วโมงอย่างเช่นในอดีต เพราะอาจไม่ทันการณ์ต่อการช่วยเหลือชีวิตหนูน้อยผู้ไร้เดียงสาที่ตกอยู่ในเงื้อมมือมัจจุราช
กำลังโหลดความคิดเห็น