เลขาธิการป.ป.ส.ตรวจเยี่ยมผลการปฏิบัติงานโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจวันแรก ระบุปชช.เข้าร่วมโครงการฝากบ้านกับตร.กว่า2พันหลัง เผยพื้นที่เฝ้าระวังปัญหายาเสพติดสูงสุด5เขต กทม.
วันนี้(12เม.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ป.ป.ส.และคณะ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานตามโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ สน.โชคชัย และเดินทางไปตรวจบ้านที่เข้าโครงการ ซึ่งมีการติดตั้งซีซีทีวีตามโครงการ "ตาอัจฉริยะ" ภายในซอยสังคมสงเคราะห์ 6 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ โดยเริ่มจากบ้านเลขที่ 14 ซึ่งเป็นบ้านของนายรอง เค้ามูลคดี นักเเสดงรุ่นใหญ่ชื่อดัง จากนั้นไปยังบ้านเลขที่ 646 ซึ่งเป็นบ้านของนายสมบัติ เมทะนี อดีตพระเอกชื่อดัง เเละต่อด้วยบ้านเลขที่ 776 ซึ่งเป็นบ้านของนางสุดา ชื่นบาน เเม่ของน.ส.นภัสสร บุรณศิริ หรือโมเม นักร้องเเละพิธีกรชื่อดัง โดยมี พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ ฉันทวรลักษณ์ ผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือ 191 (ผบก.สปพ.) พ.ต.อ. ธนวัตร วัฒนกุล ผกก.สน.โชคชัย ให้การต้อนรับ
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ได้เปิดโครงการนี้ขึ้นระหว่าง วันที่ 8 - 17 เม.ย. รวม 10 วัน ขณะนี้มีประชาชนฝากบ้านไว้ทั่วประเทศ รวม 2,003 หลัง เป็นบ้านในเขตกทม. จำนวน 731 หลัง จังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ จำนวน 1,272 หลัง สำหรับในพื้นที่กรุงเทพฯนั้น สน.โชคชัย รับฝากบ้านไว้มากที่สุด จำนวน 45 หลัง รองลงไป 10 ลำดับ ได้แก่ สน.หัวหมาก จำนวน 25 หลัง, ลาดพร้าว จำนวน 22 หลัง, บางนา จำนวน 22 หลัง, คันนายาว จำนวน 21 หลัง, มีนบุรี จำนวน 20 หลัง, บางเขน จำนวน 20 หลัง, ท่าข้าม จำนวน 20 หลัง, คลองตัน จำนวน 19 หลัง, โคกคราม จำนวน 19 หลัง, และ ประชาชื่น จำนวน 18 หลัง ส่วนในพื้นที่ต่างจังหวัดมีประชาชนเข้าร่วมโครงการรวมทั้งสิ้น จำนวน 1,272 หลัง ประกอบด้วย ตำรวจภูธรภาค1 รับฝากบ้านไว้ จำนวน 264 หลัง, ตำรวจภูธรภาค2 รับฝากบ้านไว้ จำนวน 170 หลัง, ตำรวจภูธรภาค 3 รับฝากบ้านไว้ จำนวน 125 หลัง, ตำรวจภูธรภาค 4 รับฝากบ้านไว้ จำนวน 41 หลัง, ตำรวจภูธรภาค 5 รับฝากบ้านไว้ จำนวน 200 หลัง, ตำรวจภูธรภาค 6 รับฝากบ้านไว้ จำนวน 306 หลัง, ตำรวจภูธรภาค 7 รับฝากบ้านไว้ จำนวน 83 หลัง, ตำรวจภูธรภาค 8 รับฝากบ้านไว้ จำนวน 42 หลัง และตำรวจภูธรภาค 9 รับฝากบ้านไว้ จำนวน 31 หลัง และศูนย์ปฏิบัติการตํารวจจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศชต.) รับผิดชอบพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จ.ยะลา ปัตตานี และ นราธิวาส เป็นต้น ซึ่งมีผู้ฝากบ้านไว้ 3 หลัง โดยจังหวัดที่ฝากบ้านมากที่สุด 3 ลำดับ คือ จ.สมุทรปราการ จำนวน 120 หลัง นนทบุรี จำนวน 73 หลัง และปทุมธานี จำนวน 32 หลัง
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวอีกว่า ส่วนของการเฝ้าระวังดูแลปัญหายาเสพติดในชุมชน โดยเฉพาะชุมชนเฝ้าระวังสูงสุด 50 แห่งทั่วประเทศนั้น ได้จัด “สายตรวจ ป.ป.ส.” ออกลาดตระเวนดูแลอย่างต่อเนื่อง โดยรถสายตรวจดังกล่าวได้ติดตั้งกล้อง ซีซีทีวีเพื่อถ่ายทอดภาพความเคลื่อนไหวต่างๆ ส่งสัญญาณไปยังศูนย์ปฏิบัติการ ป.ป.ส. และศูนย์รับข้อมูลเบาะแสยาเสพติดโทร. 1386 เพื่อติดตามผลการปฏิบัติการ ส่วนผู้ที่พบเห็นข้อมูลหรือเบาะแสะเกี่ยวกับยาเสพติดสามารถแจ้งที่หมายเลข 1386 ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะในชุมชนเฝ้าระวังสูงสุดในพื้นที่กทม. ทั้ง 5 แห่ง ประกอบด้วย 1.ชุมชนวัดดวงแข แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน 2.ชุมชนสะพานปูน แขวงสีกัน เขตดอนเมือง 3.ชุมชนบางบัว แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน 4.ชุมชนวัดพระยาไกร ระยะ 3 แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม และ5.ชุมชนสุเหร่าแดง แขวงคันนายาว เขตคันนายาว
เบื้องต้นในขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่ามีเหตุร้ายใดๆ เกิดขึ้น โดยแต่ละสถานีตำรวจยังคงจัดกำลังสายตรวจเฝ้าระวังและลาดตระเวนดูแลอย่างเข้มงวดต่อไป จนกว่าบ้านหลังสุดท้ายที่เข้าร่วมโครงการจะเดินทางกลับมาด้วยความเรียบร้อยในวันพฤหัสบดีที่ 17 เม.ย. โดยการดำเนินการขอให้แจ้งสถานีตำรวจในพื้นที่ที่รับผิดชอบได้ทราบเกี่ยวกับข้อมูลการเดินทางไปและกลับ
