ไฟไหม้อาคารพาณิชย์ขายอะไหล่รถยนต์ในซอยสุขุมวิท 71 วอด 8 คูหา เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 2 ราย เจ้าหน้าที่เร่งค้นหาศพคนรับใช้ในบ้าน ที่คาดว่าถูกไฟคลอกอีก 1 ราย
เมื่อเวลา 03.30 น.วันนี้ (5 เม.ย.) ร.ต.ท.สงกรานต์ สุภาแก้ว พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ หจก.ทิพย์อะไหล่ ตั้งอยู่เลขที่ 1006/10-12 ซอยปรีดีพนมยงค์ ถนนสุขุมวิท 71 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม.จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานรถน้ำดับเพลิงจากสถานีดับเพลิง ก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.ท.กิตติพัทธ์ เที่ยงน้อย รอง ผกก.สส.สน.คลองตัน พ.ต.ท.สืบศักดิ์ ยุทธภัณฑ์ศิริกุล รอง ผกก.ป.เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ) แพทย์นิติเวชจาก รพ.จุฬาฯ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น ปลูกติดกันเป็นแนวยาวหลายสิบคูหา โดยต้นเพลิงเปิดเป็นร้านจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ขนาด 3 คูหา เจ้าหน้าที่พบเพลิงกำลังลุกไหม้บริเวณชั้นที่ 2 ก่อนลุกลามไปขึ้นไปยังชั้น 3 และคูหาข้างเคียงอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำเพื่อทำการสกัดเพลิง แต่เนื่องจากภายในที่เกิดเหตุนั้นใช้เก็บอะไหล่รถยนต์ น้ำมัน และกระป๋องสีเป็นจำนวนมาก จึงทำให้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี และเพลิงลุกไหม้ขึ้นมาใหม่ตลอดเวลา โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลานานประมาณ 3 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้
จากการสอบสวนนายทรงพล ธนโสภิต อายุ 35 ปี ลูกชายเจ้าของร้าน ให้การว่า ร้านที่เกิดเหตุมีผู้พักอาศัยด้วยกัน 3 คน คือ นายอวิรุทธิ์ กับนางสุปราณี พ่อแม่ของตน กับคนรับใช้อีก 1 คน โดยก่อนเกิดเหตุตนไม่ได้พักอาศัยอยู่ที่ร้าน จึงไม่ทราบว่าเพลิงไหม้เกิดจากสาเหตุอะไร แต่หลังจากทราบว่าเกิดเพลิงไหม้ก็รีบเดินทางมาที่ร้านทันที
พ.ต.ท.กิตติพัทธ์ กล่าวต่อว่า ระหว่างเกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย คือ นายอวิรุทธิ์ ธนโสภิต อายุ 64 ปี เจ้าของร้านที่เกิดเหตุที่กระโดดหนีลงมาจากชั้น 3 นำตัวส่ง รพ.กล้วยนำไท 1 และนายจักรกฤษณ์ ริยาพันธ์ อายุ 34 ปี เจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่พลัดตกลงมาจากอาคาร นำตัวส่ง รพ.สิรินธร ซึ่งยังมีผู้ติดภายในร้านดังกล่าวอีก 2 รายคือ นางสุปราณี ธนโสภิต อายุ 62 ปี ภรรยานายอวิรุทธิ์ และคนรับใช้อีก 1 คน ที่ยังไม่สามารถออกมาจากอาคารที่เกิดเหตุได้ ต่อมาจากการตรวจสอบภายในอาคารที่เกิดเหตุบริเวณชั้นที่ 2 พบศพนางสุปราณี สภาพศพถูกเพลิงไหม้หมดทั้งร่าง เจ้าหน้าที่จึงนำศพส่งไปชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง ที่แผนกนิติเวช รพ.จุฬาฯ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังทำการค้นหาศพของคนรับใช้อีกราย
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบมีอาคารข้างเคียงถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายจำนวน 8 คูหา พร้อมเตรียม ตรวจสอบอาคารดังกล่าวอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุของเพลิงไหม้ ครั้งนี้ต่อไป