เมียฉุนผัวตกงานชอบบีบคอ แทงสวนดับคาห้องพัก

เกิดเหตุภรรยาคว้ามีดทำครัวแทงสามีเสียชีวิตโดยไม่ได้ตั้งใจ ภายในห้องพักอพาร์ตเมนต์ ย่านคลองตัน เมียมือมีดสารภาพรู้สึกโกรธที่สามีตกงาน และไม่ยอมช่วยงานบ้าน อีกทั้งต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายแต่เพียงผู้เดียว จึงดุด่า แต่กลับถูกบีบคอ จึงบันดาลโทสะแทงสวนดับ

วันนี้ (21 มี.ค.) ร.ต.ท.ศิวนัส สุวรพันธ์ พงส.สน.คลองตัน ได้รับแจ้งเหตุมีชายถูกแทงเสียชีวิตภายในอพาร์ตเมนต์ อินเตอร์คอร์น เลขที่ 251 ซอยปรีดีพนมยงค์ 42 แยก 7 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม.จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยแพทย์ รพ.จุฬาลงกรณ์ และอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเป็นอพาร์ตเมนต์ 7 ชั้น ชื่ออพาร์ตเมนต์ อินเตอร์คอร์น บริเวณหน้าลิฟต์ชั้น 5 ของอพาร์ตเมนต์ พบศพชายสวมเสื้อลายสกอตสีขาวดำ กางเกงขายาวสีเทา นอนหงาย มีบาดแผลถูกแทงใต้ราวนมซ้าย 1 แผล และมีคราบเลือดเปรอะเปื้อนทั่วบริเวณ ข้างศพพบ นางสาวหทัยรัตน์ สวัสดิ์กำจรพงศ์ อายุ 33 ปี อาชีพพนักงานส่งเอกสาร นั่งร้องไห้อยู่ข้างศพ ทราบชื่อผู้เสียชีวิตในภายหลังคือ นายอมรชัย โอฬารนภาลัย อายุ 37 ปี เป็นสามีของนางสาวหทัยรัตน์ เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจสอบห้องพักเลขที่ 507 เป็นห้องพักของทั้งคู่ พบคราบเลือดทั่วบริเวณห้อง และพบมีดทำครัวปลายแหลมเปื้อนเลือดตกอยู่ข้างเตียง

จากการสอบสวนนางสาวหทัยรัตน์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้เดินทางกลับมาที่ห้องพักในช่วงบ่าย พบนายอมรชัยนอนหลับอยู่ จึงเกิดบันดาลโทสะที่นายอมรชัยไม่ยอมทำงานบ้าน อีกทั้งยังตกงานมาแล้วเดือนกว่า จากนั้นจึงปลุกนายอมรชัยขึ้นมาพูดคุยจนเกิดการโต้เถียงกันอย่างรุนแรง ก่อนที่นายอมรชัยตรงเข้าบีบคอตนจนล้มลงนอนกับพื้น ด้วยความตกใจตนจึงคว้ามีดทำครัวแทงเข้าที่ลำตัวนายอมรชัย เพื่อป้องกันตัว เมื่อเห็นนายอมรชัยมีเลือดออก ตนตกใจมาก จึงจะรีบพานายอมรชัยไปส่ง รพ.โดยตนประคองนายอมรชัย ไปถึงหน้าลิฟต์ ก่อนที่นายอมรชัยจะทนพิษบาดแผลไม่ไหวล้มลงเสียชีวิต

จากการสอบถามแม่บ้านอพาร์ตเมนต์ดังกล่าวให้การว่า ผู้ตายและภรรยามีปากเสียงกันบ่อยครั้ง เนื่องจากผู้ตายตกงานได้ประมาณ 1 เดือนแล้ว และยังหางานใหม่ทำไม่ได้ คาดว่านางสาวหทัยรัตน์คงเกิดความเครียด เนื่องจากต้องเลี้ยงดูลูกเล็กอายุประมาณ 4 เดือนอีก 1 คน ซึ่งตอนนี้ได้ส่งไปให้ผู้เป็นย่าเลี้ยงดู

ร.ต.ท.ศิวนัส กล่าวว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้นนางสาวหทัยรัตน์ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือแทงสามีตนเอง เนื่องจากต้องการป้องกันตัว เมื่อก่อเหตุแล้วเกิดอาการตกใจจะรีบพาสามีไปส่ง รพ.แต่มาเสียชีวิตลงก่อน จากนี้จะทำการควบคุมตัวนางสาวหทัยรัตน์ไปสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง และจะทำการสอบปากคำพยานแวดล้อมเพิ่มเติมก่อนดำเนินการแจ้งข้อหาต่อไป