xs
xsm
sm
md
lg

ลูกคนเล็กครอบครัว “หอมชง” ยืนยันความบริสุทธิ์ ปัดไม่เกี่ยวฆ่า 3 ศพ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

(แฟ้มภาพ)
ลูกชายคนเล้กครอบครัว “หอมชง” ยืนยันความบริสุทธิ์ไม่เกี่ยวเหตุการฆาตกรรม 3 ศพในครอบครัว หลังโดนตำรวจสอบเค้นอย่างหนักจนเกิดอาการเครียด

จากคดีฆ่า 3 ศพคาบ้านพักย่านหลักสอง จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 3 รายคือ พ.อ.วิชัย หอมชง อายุ 63 ปี ข้าราชการบำนาญ กรมแพทย์ทหารบก นางวนิดา หอมชง อายุ 57 ปี ครูโรงเรียนราชวินิตประถมบางแค ร.ต.ท.ธรรมณัฐ หอมชง หรือหมวดเติ้ล อายุ 27 ปี นรต.รุ่น 66 พนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (4 เม.ย) ที่ สน.หลักสอง พล.ต.ต.ชยุต รัตนอุบล ผบก.น.9 พร้อม พ.ต.อ.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง รอง ผบก.น.9 และ พ.ต.อ.บุญส่ง นามกรณ์ รอง ผบก.น.9 สั่งการให้พนักงานสอบสวนควบคุมตัวนายกิตตินันท์ หอมชง หรือเต้ย อายุ 22 ปี ลูกชายคนเล็กของครอบครัวดังกล่าวซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ เพื่อสอบปากคำอย่างเคร่งเครียดตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ก่อนจะอนุญาตให้นายกิตตินันท์ออกจากห้องสอบสวนมาพักรับประทานอาหารได้ในช่วงเวลา 13.00 น.

จากการสอบถามนายกิตตินันท์กล่าวว่า คดีนี้ความจริงเป็นเช่นไรตนขอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ แต่ขอยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้ลงมือฆ่าพ่อ แม่ และพี่ชายอย่างแน่นอน เนื่องจากเกิดมาเคยยิงปืนแค่ครั้งเดียวสมัยเรียน รด. และไม่เคยยิงปืนสั้นเลย โดยเมื่อช่วงเย็นวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมาก็มีพยานยืนยันว่าตนกับพี่เติ้ล และเพื่อนอีก 1 คนเดินทางไปกินบะหมี่ที่เดอะมอลล์ บางแค ก่อนแยกย้ายกันตอนประมาณ 23.00 น. โดยพี่เติ้ลมุ่งหน้ากลับไปที่บ้านหลังที่เกิดเหตุ ส่วนตนและเพื่อนย้อนกลับไปพักที่บ้านในซอยจรัญสนิทวงศ์ 13 ซึ่งตนได้พักอยู่กับพวกเพื่อนที่ทำคณะสิงโต จากนั้นช่วงเวลาประมาณ 00.30 วานนี้ (3 เม.ย.) พี่เติ้ลยังโทรศัพท์มาหาบอกว่าคืนนี้อย่าลืมดูถ่ายทอดสดฟุตบอลคู่ระหว่างเชลซีกับปารีส แชงต์แชร์กแมง โดยตนยังพูดหยอกล้อกลับไปว่าคงไม่ดูเพราะไม่ใช่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดทีมโปรดเตะแข่งขัน ปกติตนและพี่เติ้ลสนิทสนมกันมาก ไปกินเที่ยวและเตะฟุตบอลด้วยกันตลอด

นายกิตตินันท์กล่าวต่อว่า ยอมรับว่าที่ผ่านมาพี่เติ้ลและแม่ช่วยตนโกหกพ่อเรื่องที่ออกจากมหาวิทยาลัยไม่ยอมเรียนต่อตั้งแต่ช่วงอยู่ปี 2 โดยตบตาพ่อด้วยการออกมาใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อนซึ่งมีแม่และพี่เติ้ลให้เงินใช้จ่ายตลอด สำหรับเรื่องฟิตเนสนั้นตนแค่เคยคุยกับแม่เอาไว้เท่านั้นว่าจะอยากเปิดเพราะชอบออกกำลังกาย ซึ่งแม่ก็เห็นดีด้วยแต่ยังไม่ได้ให้เงินมาลงทุน

ส่วนประเด็นที่ดินที่เป็นมรดกของพ่อก็ไม่ถึง 40 ไร่ มีประมาณ 24 ไร่ พี่น้องฝ่ายพ่อมีทั้งหมด 6 คน แบ่งกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนที่ดินในส่วนที่พ่อได้มามีเพียง 3 ไร่ครึ่ง ติดอยู่ด้านหลังบ้าน ปัจจุบันให้บริษัทขนส่งสินค้าเช่าอยู่ทุกเดือน โดยพ่อและแม่ก็มีรายได้จากค่าเช่าส่วนนี้

นายกิตตินันท์กล่าวต่อว่า แต่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาพ่อถูกญาติสนิทเป็นผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งพักอยู่บ้านใกล้กันพร้อมสามีของญาติคนนั้นพาไปมอมเหล้าเพื่อเซ็นโอนที่ดินส่วนดังกล่าวให้ กระทั่งแม่ตนต้องไปทำเรื่องฟ้องร้องยึดกลับคืนมาได้ คาดว่าน่าจะสร้างความโกรธแค้นให้ญาติคนนี้พอสมควร ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่ตนสงสัยคือ แม่ตนรับหวยใต้ดินส่งต่อให้เจ้ามือรายใหญ่คนหนึ่ง งวดละหลักแสนบาท อาจจะมีการทะเลาะเบาะแว้งกับลูกค้าบ้าง แต่แม่ตนก็ไม่เคยเล่าให้ฟังเพราะในอาทิตย์หนึ่งจะอยู่ด้วยกันแค่วันเสาร์และวันอาทิตย์เท่านั้น

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พี่เติ้ลเคยเล่าเรื่องขัดแย้งกับใครให้ฟังหรือไม่ นายกิตตินันท์กล่าวว่า พี่ชายเป็นตำรวจตนเชื่อว่าต้องมีปัญหาจากการทำงานอยู่แล้ว แต่ไม่น่าจะถึงต้องฆ่าแกงกัน ก่อนหน้านี้เคยมาเล่าเรื่องติดตลกให้ฟังว่าเคยทำคดีเพื่อนลูก ผบ.ทบ.คนปัจจุบันและถูกเบ่งใส่ แต่ก็ไม่มีอะไร ส่วนข้อเท็จจริงที่มีเพื่อนตำรวจ สน.ตลิ่งชัน ให้ข้อมูลว่าพี่เติ้ลโทรศัพท์ไปขอลางานเพราะวันนั้นกำลังเคลียร์เรื่องที่ดินกับญาตินั้น ขอตอบตามตรงว่าตอนนั้นตนกับพี่ชายอยู่ด้วยกันที่ห้างเดอะมอลล์ บางแค จึงต้องการหยุดพักกลับบ้านไปพักผ่อน เลยอ้างว่ากำลังเคลียร์ปัญหากับครอบครัวอยู่

เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาพนักงานสอบสวนถามอะไรบ้าง นายกิตตินันท์กล่าวว่า ถามไปมาซ้ำเรื่องเดิมๆ ตำรวจบางคนก็พูดจาไม่ดีกับตนด้วย แต่ตนตอบได้คำเดียวคือไม่รู้เรื่อง หลังเกิดเหตุมีเพื่อนแม่โทร.มาบอก ส่วนที่น้ำตาไม่ไหลออกมาเพราะช็อกมาก และเรื่องอาวุธปืนยี่ห้อกล็อกของพี่เติ้ลที่ข่าวออกมาว่าหายไป จริงๆ แล้วก็ไม่ได้หายไปไหน ตำรวจพบปืนอยู่ในกระเป๋าสะพายวางอยู่บนโต๊ะบนห้องโถง โดยที่ปืนก็ยังไม่ได้ผ่านการยิงไปสักนัด ที่สำคัญตนถูกจับตรวจเขม่าดินปืนแล้วตั้งแต่เมื่อคืนนี้ แต่ผลคือไม่พบเขม่าดินปืนติดมือ เพราะตนไม่ได้ทำ

นายกิตตินันท์กล่าวอีกว่า อยากบอกผ่านสื่อมวลชนไปด้วยว่า หลังจากนี้ถึงจะตกเป็นจำเลยสังคมฐานฆ่าพ่อ แม่ และพี่ชายตัวเองก็ไม่เป็นไร ตนเชื่อมั่นในระบบของกระบวนการยุติธรรมปัจจุบันนี้ เพราะพี่ชายตนก็รับราชการตำรวจ ส่วนผู้ที่ก่อเหตุหรือสมรู้ร่วมคิดนั้นอยากบอกว่าคงโกหกได้ไม่นานเดี๋ยวความจริงก็ปรากฏ โดยเฉพาะปกติสุนัขที่บ้านก็ไม่เคยเห่าคนแปลกหน้าอยู่แล้ว ประตูรั้วซึ่งห่างจากประตูเข้าบ้านประมาณ 20 เมตรก็ไม่เคยล็อกเอาไว้ พ่อกับแม่ตนนอนกี่โมงเรื่องนี้มีแต่บรรดาคนใกล้ชิดเท่านั้นที่รู้ดีว่าควรเข้าออกบ้านตนได้ง่ายๆ อย่างไร แต่หลังจากนี้ขอให้ปล่อยตนกลับไปอยู่ที่บ้านอย่างสงบสุขและสบายใจก็พอ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.หลักสอง กก.สส.บก.น.9 บก.สส.บช.น. ได้สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้าไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุซ้ำตลอดทั้งวัน ขณะที่บางส่วนแบ่งกำลังเสาะหาเบาะแสคนร้ายจากกล้องวงจรปิดตามห้างร้านและบริษัทซึ่งอยู่ในละแวกใกล้เคียง เพื่อหาเบาะแสในการตามล่าตัวคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้มาดำเนินคดีต่อไป
(แฟ้มภาพ)
(แฟ้มภาพ)
กำลังโหลดความคิดเห็น