ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สาวใหญ่แจ้งความตำรวจ สภ.วิชิต จ.ภูเก็ต หลังถูกแก๊งสิบแปดมงกุฎหลอกตีสนิทผ่านเฟซบุ๊ก พร้อมส่งของขวัญจากต่างประเทศ อ้างทำเซอร์ไพรส์ ผู้เสียหายเช็กอีเมลบริษัทรับส่งของพบมีการส่งจริง แต่ถูกอายัดที่ประเทศเพื่อนบ้าน คนร้ายอ้างเป็นเจ้าหน้าที่โทรศัพท์ติดต่อให้จ่ายเงินค่าดำเนินการ ไกล่เกลี่ยรวมกว่า 3 ล้านบาท ยังไม่พอเรียกเพิ่มอีก 2 ล้าน ถ้าไม่จ่ายจะถูกดำเนินคดีเหตุมีการส่งเงินจากต่างประเทศกว่า 11 ล้านบาทมาให้
เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (30 ต.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรวิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต พ.ต.อ.ชวลิต เพชรศรีเปีย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรวิชิต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.วิชิต ร่วมสอบปากคำ นางเอ นามสมมติ อายุ 53 ปี ชาวจังหวัดภูเก็ตซึ่งเดินทางเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.ต.สุภรณ์ เมืองไข่ ร้อยเวร สภ.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต และ พ.ต.ท.ภาสกร สนธิกุล รอง ผกก.ป.สภ.วิชิต พ.ต.ท.อำพล จันทกูล สารวัตรป้องกันและปราบปราม สภ.วิชิต ว่าถูกแก๊งสิบแปดมงกุฎอ้างเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งรู้จักผ่านโซเชียลมีเดีย (เฟซบุ๊ก) หลอกว่าส่งสิ่งของจากต่างประเทศมาให้เพื่อเซอร์ไพรส์ แต่พัสดุดังกล่าวถูกอายัดไว้ตรวจสอบที่ด่านศุลกากรของประเทศมาเลเซีย โดยอ้างว่าภายในกล่องพัสดุที่ส่งมานั้นมีเงินสกุลต่างประเทศอยู่ มูลค่าประมาณ 270,000 ยูโร ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเคลียร์กับเจ้าหน้าที่โดยหลอกให้โอนเงินไปแล้วเกือบ 3 ล้านบาทเพื่อแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดีและส่งพัสดุให้ แต่หลังจากนั้นมีการเรียกร้องขอเงินอีกประมาณ 2.3 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าน่าจะถูกหลอกจึงตัดสินใจมาแจ้งความดำเนินคดีต่อคนร้าย
จากการสอบสวน นางเอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย ในเบื้องต้น ทราบว่า ก่อนหน้านี้ได้รู้จักกับชาวต่างชาติรายหนึ่งผ่านทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งใช้ชื่อในเฟซบุ๊กว่า Nick Hery (นิก เฮรี) อยู่สหรัฐอเมริกา และก็มีการติดต่อแชตกันเป็นระยะเวลาหนึ่ง จากนั้นเมื่อประมาณต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมาชาวต่างชาติคนดังกล่าวแจ้งว่าได้ส่งพัสดุที่ประกอบไปด้วย โทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน 1 เครื่อง นาฬิกาข้อมือ 1 เรือน กระเป๋า 1 ใบ ช็อกโกแลต และซองสีน้ำตาล 1 ซองมาให้ โดยระบุว่าซื้อให้เป็นของขวัญและต้องการทำเซอร์ไพรส์ จากนั้นจึงให้ผู้เสียหายเข้าไปเช็กพัสดุในเว็บไซต์แห่งหนึ่งที่มีการจำลองรูปแบบคล้ายกับบริษัทขนส่งสินค้าชื่อดังระดับโลกที่นายนิกเป็นผู้ส่งมาให้พร้อมกับรหัส ซึ่งผู้เสียหายก็ได้เข้าไปตรวจสอบ ปรากฏว่าพัสดุมีอยู่จริง โดยเริ่มจากสหรัฐฯ ข้ามไปประเทศอังกฤษ สุดท้ายก็มาอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาการส่งของนายนิกก็ได้แชตพูดคุยกันตลอดเวลา
ต่อมาในวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมาก็มีโทรศัพท์เป็นเบอร์จากต่างประเทศติดต่อเข้ามาโดยผู้ที่ติดต่อเป็นผู้หญิงชาวไทย อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่บริษัทขนส่งโทร.มาจากประเทศมาเลเซีย และแจ้งว่าสินค้าที่ส่งมามีปัญหาติดค้างอยู่ที่ด่านศุลกากรประเทศมาเลเซีย จะต้องเสียค่าปรับจำนวน 48,000 บาท ซึ่งตนก็พยายามพูดคุยและต้องการให้เรื่องนี้ผ่านไปได้ จึงตัดสินใจโอนเงินชำระค่าปรับดังกล่าวตามหมายเลขบัญชีที่ผู้หญิงชาวไทยส่งมาให้ผ่านทางธนาคารกรุงเทพ สาขาวิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต
หลังจากนั้นประมาณวันที่ 12 ตุลาคม 2556 ก็มีผู้ชายอ้างว่าเป็นชาวมาเลเซีย เป็นผู้จัดการภูมิภาคเอเชียของบริษัทขนส่งแห่งนี้ ได้โทรศัพท์ติดต่อมาหา พร้อมกล่าวว่า จากการตรวจสอบสินค้าพบว่าในซองเอกสารสีน้ำตาลมีเงินสกุลยูโรจำนวนประมาณ 270,000 ยูโร คิดเป็นเงินไทยประมาณ 11 ล้านบาท อาจเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน และขณะนี้ทางตำรวจสากล กองทุน IMF กำลังจะเข้ามาตรวจสอบ ดังนั้นผู้เสียหายจะต้องจ่ายเงินจำนวนหนึ่งเพื่อแลกกับการไกล่เกลี่ยโดยไม่ถูกตรวจสอบ พร้อมกำชับว่า ห้ามนำเรื่องที่เกิดขึ้นไปบอกเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด้วยความกลัวนางเอจึงตัดสินใจโอนเงินอีกครั้งเมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมาภายในวันเดียว รวมเป็นจำนวนกว่า 2 ล้านบาท เข้าบัญชีที่ผู้จัดการชาวมาเลเซียอ้างว่าเป็นบัญชีของตำรวจสากลในประเทศไทย ผ่านทางธนาคารธนชาต และธนาคารกรุงเทพ ทั้งนี้ หลังจากที่โอนเงินเสร็จก็คิดว่าเรื่องจะจบและตัวเองจะได้สินค้าที่ส่งมา แต่ชาวมาเลเซียก็ยังคงติดต่อมาอีกครั้ง และบอกว่าเรื่องยังไม่จบ ทางกรมศุลกากรของประเทศเพื่อนบ้านและหน่วยงานตำรวจสากลต้องการเงินเพิ่มอีกจำนวน 2,300,000 บาทเพื่อเป็นการเคลียร์เรื่องสินค้าซึ่งตัวเองไม่มีเงินแล้ว จึงปรึกษากับเพื่อนชาวต่างชาติ ซึ่งคาดว่าน่าจะถูกหลอก และตัดสินใจเข้าแจ้งความต่อทางตำรวจ
พ.ต.อ.ชวลิต เพชรศรีเปีย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้เสียหาย เชื่อว่าผู้เสียหายถูกแก๊งสิบแปดมงกุฎ หรือแก๊งควายหลอกลวงเอาทรัพย์สิน และรายนี้น่าจะมีผู้ที่แจ้งเบาะแส ซึ่งรู้ว่าผู้เสียหายมีเงินเก็บ จึงวางแผนหลอกลวงเพื่อเอาเงิน ซึ่งเรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังอยู่ระหว่างการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป สำหรับกรณีการหลอกลวงเพื่อให้ผู้เสียหายสูญเสียเงินนั้นเกิดขึ้นบ่อยครั้งในประเทศไทย จึงอยากฝากเตือนไปยังประชาชนอย่าได้หลงเชื่อคนที่เข้ามาหลอกลวงเพราะเดี๋ยวนี้คนร้ายมีรูปแบบการหลอกลวงหลายแบบ ส่วนใหญ่จะหลอกให้โอนเงินเข้าบัญชี มีทั้งที่บอกว่าส่งของมาให้ หรือเป็นผู้โชคดีได้รับรางวัล
ด้าน พ.ต.ท.ภาสกร สนธิกุล รอง ผกก.ป.สภ.วิชิต เปิดเผยว่า กรณีนี้เบื้องต้นคงต้องมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประสานกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ร่วมตรวจสอบข้อมูลว่า นายนิก ผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก Nick Herry มีตัวตนจริงหรือไม่ จากนั้นก็จะให้ตำรวจชุดสืบสวนร่วมติดตามเส้นทางการเงินที่นางเอได้มีการโอนเงินผ่านทางธนาคารทั้ง 2 แห่ง นำมาใช้ประกอบกับหลักฐานการแชต พูดคุย ระหว่างนางเอ กับนายนิก เพื่อนำมาใช้เป็นหลักฐานเพื่อสืบค้นถึงแหล่งที่มาของแก๊งสิบแปดมงกุฎต่อไป
เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (30 ต.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรวิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต พ.ต.อ.ชวลิต เพชรศรีเปีย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรวิชิต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.วิชิต ร่วมสอบปากคำ นางเอ นามสมมติ อายุ 53 ปี ชาวจังหวัดภูเก็ตซึ่งเดินทางเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.ต.สุภรณ์ เมืองไข่ ร้อยเวร สภ.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต และ พ.ต.ท.ภาสกร สนธิกุล รอง ผกก.ป.สภ.วิชิต พ.ต.ท.อำพล จันทกูล สารวัตรป้องกันและปราบปราม สภ.วิชิต ว่าถูกแก๊งสิบแปดมงกุฎอ้างเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งรู้จักผ่านโซเชียลมีเดีย (เฟซบุ๊ก) หลอกว่าส่งสิ่งของจากต่างประเทศมาให้เพื่อเซอร์ไพรส์ แต่พัสดุดังกล่าวถูกอายัดไว้ตรวจสอบที่ด่านศุลกากรของประเทศมาเลเซีย โดยอ้างว่าภายในกล่องพัสดุที่ส่งมานั้นมีเงินสกุลต่างประเทศอยู่ มูลค่าประมาณ 270,000 ยูโร ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเคลียร์กับเจ้าหน้าที่โดยหลอกให้โอนเงินไปแล้วเกือบ 3 ล้านบาทเพื่อแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดีและส่งพัสดุให้ แต่หลังจากนั้นมีการเรียกร้องขอเงินอีกประมาณ 2.3 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าน่าจะถูกหลอกจึงตัดสินใจมาแจ้งความดำเนินคดีต่อคนร้าย
จากการสอบสวน นางเอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย ในเบื้องต้น ทราบว่า ก่อนหน้านี้ได้รู้จักกับชาวต่างชาติรายหนึ่งผ่านทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งใช้ชื่อในเฟซบุ๊กว่า Nick Hery (นิก เฮรี) อยู่สหรัฐอเมริกา และก็มีการติดต่อแชตกันเป็นระยะเวลาหนึ่ง จากนั้นเมื่อประมาณต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมาชาวต่างชาติคนดังกล่าวแจ้งว่าได้ส่งพัสดุที่ประกอบไปด้วย โทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน 1 เครื่อง นาฬิกาข้อมือ 1 เรือน กระเป๋า 1 ใบ ช็อกโกแลต และซองสีน้ำตาล 1 ซองมาให้ โดยระบุว่าซื้อให้เป็นของขวัญและต้องการทำเซอร์ไพรส์ จากนั้นจึงให้ผู้เสียหายเข้าไปเช็กพัสดุในเว็บไซต์แห่งหนึ่งที่มีการจำลองรูปแบบคล้ายกับบริษัทขนส่งสินค้าชื่อดังระดับโลกที่นายนิกเป็นผู้ส่งมาให้พร้อมกับรหัส ซึ่งผู้เสียหายก็ได้เข้าไปตรวจสอบ ปรากฏว่าพัสดุมีอยู่จริง โดยเริ่มจากสหรัฐฯ ข้ามไปประเทศอังกฤษ สุดท้ายก็มาอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาการส่งของนายนิกก็ได้แชตพูดคุยกันตลอดเวลา
ต่อมาในวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมาก็มีโทรศัพท์เป็นเบอร์จากต่างประเทศติดต่อเข้ามาโดยผู้ที่ติดต่อเป็นผู้หญิงชาวไทย อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่บริษัทขนส่งโทร.มาจากประเทศมาเลเซีย และแจ้งว่าสินค้าที่ส่งมามีปัญหาติดค้างอยู่ที่ด่านศุลกากรประเทศมาเลเซีย จะต้องเสียค่าปรับจำนวน 48,000 บาท ซึ่งตนก็พยายามพูดคุยและต้องการให้เรื่องนี้ผ่านไปได้ จึงตัดสินใจโอนเงินชำระค่าปรับดังกล่าวตามหมายเลขบัญชีที่ผู้หญิงชาวไทยส่งมาให้ผ่านทางธนาคารกรุงเทพ สาขาวิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต
หลังจากนั้นประมาณวันที่ 12 ตุลาคม 2556 ก็มีผู้ชายอ้างว่าเป็นชาวมาเลเซีย เป็นผู้จัดการภูมิภาคเอเชียของบริษัทขนส่งแห่งนี้ ได้โทรศัพท์ติดต่อมาหา พร้อมกล่าวว่า จากการตรวจสอบสินค้าพบว่าในซองเอกสารสีน้ำตาลมีเงินสกุลยูโรจำนวนประมาณ 270,000 ยูโร คิดเป็นเงินไทยประมาณ 11 ล้านบาท อาจเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน และขณะนี้ทางตำรวจสากล กองทุน IMF กำลังจะเข้ามาตรวจสอบ ดังนั้นผู้เสียหายจะต้องจ่ายเงินจำนวนหนึ่งเพื่อแลกกับการไกล่เกลี่ยโดยไม่ถูกตรวจสอบ พร้อมกำชับว่า ห้ามนำเรื่องที่เกิดขึ้นไปบอกเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด้วยความกลัวนางเอจึงตัดสินใจโอนเงินอีกครั้งเมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมาภายในวันเดียว รวมเป็นจำนวนกว่า 2 ล้านบาท เข้าบัญชีที่ผู้จัดการชาวมาเลเซียอ้างว่าเป็นบัญชีของตำรวจสากลในประเทศไทย ผ่านทางธนาคารธนชาต และธนาคารกรุงเทพ ทั้งนี้ หลังจากที่โอนเงินเสร็จก็คิดว่าเรื่องจะจบและตัวเองจะได้สินค้าที่ส่งมา แต่ชาวมาเลเซียก็ยังคงติดต่อมาอีกครั้ง และบอกว่าเรื่องยังไม่จบ ทางกรมศุลกากรของประเทศเพื่อนบ้านและหน่วยงานตำรวจสากลต้องการเงินเพิ่มอีกจำนวน 2,300,000 บาทเพื่อเป็นการเคลียร์เรื่องสินค้าซึ่งตัวเองไม่มีเงินแล้ว จึงปรึกษากับเพื่อนชาวต่างชาติ ซึ่งคาดว่าน่าจะถูกหลอก และตัดสินใจเข้าแจ้งความต่อทางตำรวจ
พ.ต.อ.ชวลิต เพชรศรีเปีย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้เสียหาย เชื่อว่าผู้เสียหายถูกแก๊งสิบแปดมงกุฎ หรือแก๊งควายหลอกลวงเอาทรัพย์สิน และรายนี้น่าจะมีผู้ที่แจ้งเบาะแส ซึ่งรู้ว่าผู้เสียหายมีเงินเก็บ จึงวางแผนหลอกลวงเพื่อเอาเงิน ซึ่งเรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังอยู่ระหว่างการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป สำหรับกรณีการหลอกลวงเพื่อให้ผู้เสียหายสูญเสียเงินนั้นเกิดขึ้นบ่อยครั้งในประเทศไทย จึงอยากฝากเตือนไปยังประชาชนอย่าได้หลงเชื่อคนที่เข้ามาหลอกลวงเพราะเดี๋ยวนี้คนร้ายมีรูปแบบการหลอกลวงหลายแบบ ส่วนใหญ่จะหลอกให้โอนเงินเข้าบัญชี มีทั้งที่บอกว่าส่งของมาให้ หรือเป็นผู้โชคดีได้รับรางวัล
ด้าน พ.ต.ท.ภาสกร สนธิกุล รอง ผกก.ป.สภ.วิชิต เปิดเผยว่า กรณีนี้เบื้องต้นคงต้องมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประสานกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ร่วมตรวจสอบข้อมูลว่า นายนิก ผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก Nick Herry มีตัวตนจริงหรือไม่ จากนั้นก็จะให้ตำรวจชุดสืบสวนร่วมติดตามเส้นทางการเงินที่นางเอได้มีการโอนเงินผ่านทางธนาคารทั้ง 2 แห่ง นำมาใช้ประกอบกับหลักฐานการแชต พูดคุย ระหว่างนางเอ กับนายนิก เพื่อนำมาใช้เป็นหลักฐานเพื่อสืบค้นถึงแหล่งที่มาของแก๊งสิบแปดมงกุฎต่อไป