xs
xsm
sm
md
lg

รวบโจ๋ทรชน ตระเวนปล้นและฆ่าเจ้าทรัพย์

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายสมประสงค์ สืบมงคล หรือโน๊ต  นายพลาการ สุขสุสาตร์ หรือเเบ็งค์  นายครรชิตพล วงษ์เลิศ  ผู้ต้องหาปล้นและฆ่าผู้อื่น
บช.น.แถลงผลจับกุมแก๊งโจ๋ปล้นทรัพย์และฆ่าผู้อื่น ก่อนนำทรัพย์สินที่ได้ไปขายเพื่อเที่ยวเตร่และเสพยา ตระเวนก่อเหตุมาแล้ว 6 ครั้ง

วันนี้ (27 มี.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น พร้อมด้วย พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ รอง ผบช.น. และพ.ต.อ.ทิวา โสภาเจริญ ผกก.กก.สส.บก.น.7 ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัวผู้ต้องหาแก๊งปล้นทรัพย์และฆ่าผู้อื่น 3 ราย คือ นายสมประสงค์ สืบมงคล หรือโน๊ต อายุ 25 ปี, นายพลาการ สุขสุสาตร์ หรือแบงค์ อายุ 21 ปี, นายครรชิตพล วงษ์เลิศ อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน ที่ 255-257/2557 ลงวันที่ 26 มี.ค. ข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธมีด เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร จับกุมตัวได้ที่ กก.สส.บก.น.7 พร้อมของกลางอาวุธมีด 1 เล่ม, โทรศัพท์มือถือ 11 เครื่อง กระเป๋าสะพายแบบผู้หญิง 5 ใบ และกระเป๋าสตางค์ 3 ใบ

พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดได้ร่วมกันก่อเหตุในพื้นที่ บก.น.1, 6 และ 7 โดยใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะในการก่อเหตุ ซึ่งในแต่ละวันจะขับขี่รถจักรยานยนต์เพื่อออกตระเวนหาเหยื่อ หากเหยื่อขัดขืนหรือต่อสู้จะทำร้ายร่ายกาย ส่วนทรัพย์สินที่ได้จะนำไปขาย เที่ยวเตร่ ซื้อสุรา และซื้อยาเสพติด ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนจึงเป็นเรื่องที่สำคัญจะต้องติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดี ซึ่งต้องขอขอบคุณทีมงานสืบสวน บก.น.7 และสน.บางกอกน้อย ที่พยายามสืบสวนจับกุมคนร้าย

ด้าน พ.ต.อ.ทิวากล่าวว่า สำหรับในคดีนี้ได้รับนโยบายจากผู้บัญชาการให้เร่งติดตามจับกุมผู้ต้องหาคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ โดยเมื่อวันที่ 21 มี.ค. เวลาประมาณ 04.00 น. บริเวณจรัญฯ 35 หน้าเคเอฟซี แม็คโคร ผู้ต้องหาได้ขับขี่จักยานยนต์มาตามทางพบนายประวัติ บัวแย้ม อายุ 34 ปี จึงเข้าไปทำทีหาเรื่องทะเลาะวิวาท แต่ผู้เสียหายมีอาวุธปืน นายสมศักดิ์ จอมงาม หรือเอ อายุ 28 ปี ซึ่งหลบหนีอยู่ในขณะนี้จึงใช้อาวุธมีดแทงผู้เสียหายจนเสียชิวิต จากนั้นนายครรชิตพลได้ใช้หมวกกันน็อกฟาดใบหน้าของหญิงสาวที่มากับผู้เสียหายจนหมดสติ ก่อนจะชิงทรัพย์แล้วขับจักรยานยนต์หลบหนีไปที่วังสราญรมย์เพื่อแบ่งทรัพย์สิน ก่อนจะนำอาวุธมีดไปทิ้งที่ท่อน้ำ แต่เจ้าหน้าที่สามารถติดตามหลักฐานจนเจอ ซึ่งผู้ต้องหารับสารภาพว่าทำมาแล้ว 6 ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งประสงค์ต่อทรัพย์เท่านั้น

พ.ต.อ.ทิวากล่าวอีกว่า ล่าสุดผู้ต้องหาลงมือก่อเหตุเมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่น้องปริศนากำลังเดินอยู่บริเวณหน้าแบงก์ชาติ ถูกกลุ่มผู้ต้องหาขับขี่จักรยานยนต์มากระชากกระเป๋าได้ทรัพย์สินไปหลายรายการ เช่น บัตรเอทีเอ็ม และเงินสด อย่างไรก็ตาม ผู้เสียหายบางรายเห็นเป็นเรื่องเล็กน้อยจึงไม่มาแจ้งความ หากผู้เสียหายรายใดเคยถูกคนร้ายก่อเหตุสามารถเดินทางมาดูตัวคนร้ายได้ที่ กก.สส.บก.น.7
กำลังโหลดความคิดเห็น